Sunday 31 July 2016
ภาค Reborn - "จงออกนอกนอก Comfort Zone - Go Run!!!" #20
ช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมเริ่มอัดเรื่องการสร้าง portfolio ให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ตอนนี้เพิ่งกำลังถึงช่วงการทำ Beta อยู่เลยกะลังจะไปต่อเรื่องการทำ Alpha เห็นเพื่อนเริ่มตื้อๆ ไป เลยเริ่มค่อยๆ ชลอล่ะ จริงๆ เนื้อหามันก็ค่อนข้างเยอะอยู่นะสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่เลยจริงๆ
ช่วงที่มีเวลาว่างหน่อย ผมก็จะมานั่งเรียบเรียงที่พิมพ์ๆ อธิบายเพื่อนๆ ไปมาสรุปให้ฟังเป็นภาษาเขียนอีกที ก็อย่างที่เห็นใน blog และ page นี่ล่ะครับ (#พยายามจะเขียนให้เข้าใจง่ายที่สุดและตัดประเด็นที่ผมคิดว่าซับซ้อนเกินไป หรือประเด็นที่ผมคิดว่าไม่ใช่แก่นของมันทิ้งไปนะครับ #ถ้าใครมีคำถามก็พิมพ์ไว้ใน page Fackebook ได้นะครับ)
ช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ผลจากการใช้ zeigarnik effect ยังได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ
ทำให้เดือนนี้ผมสามารถออกนอก comfort zone (ที่เพิ่มเติมจากการวิ่ง) ได้สำเร็จ โดยการดันบทความใน Blog ออกมาได้ 25 อันตามเป้า (วันไหนติดธุระ หรือ ออกกำลังหนักๆ ก็คงไม่ได้เขียนอ่ะคับ เหนื่อยไป)
รูปด้านบนเอา stat ช่วงที่วิ่งตอน app Nike อยู่ระหว่างช่วง 50-250 กิโล (ช่วงสีแดงก่อนเปลี่ยนเป็นสีเขียว) มาให้ดูเปรียบเทียบกับของเดิม ช่วงที่วิ่ง 50 กิโลแรกครับ
http://crazygoatgod.blogspot.com/2016/06/reborn-comfort-zone-go-run-8.html
แต่เดิมช่วงแรกที่วิ่งระยะ 5 กิโลจะอยู่ที่ pace 8 => ก็พัฒนามาเป็น pace 7 ครับ ลดลงเฉลี่ยกิโลนะ 1 นาที
ถ้าเวลา 1 ชั่วโมงเดิมจะวิ่งได้ 6.5 กิโล => ก็พัฒนามาเป็น 7.5 กิโล ได้เพิ่่มขึ้นมา 1 กิโลต่อชั่วโมง
ส่วนถ้าวิ่งระยะ 10 กิโล โดยปกติจะพยายามให้อยู่ในเวลาประมาณ 1 ชม 20 นาทีครับ
https://www.facebook.com/crazygoatbuster/
Saturday 30 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #14
Method คือ อะไร#4
- ว่าจะเขียนเรื่อง Method อีกซัก 1- 2 ตอนพอล่ะ เพราะว่า กุญแจสำคัญในการเทรดมันไม่ได้อยู่ที่เรื่องนี้เลย ก็เลยว่าจะเขียนแค่พอหอมปากหอมคอ ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เพิ่งจะเริ่มหัดเทรดได้พอเข้าใจและมองเห็นภาพเท่านั้นครับ ว่าอย่าไปยึดติดที่วิธีการ หรือ การตามล่าหา Holy grail
- ประเด็นอื่นๆ ในเรื่องของ Method ยังมีอีกมากมาย เอาเท่าที่พอนึกออกตอนนี้ เช่น ต่อให้เราคิดถูก วิเคราะห์ถูก ราคามันก็ไม่จำเป็นต้องไปทางเดียวกันกับที่เราวิเคราะห์ได้ถูกต้อง เพราะถ้าเราคิดได้เหมือนคนส่วนมาก (แม้ว่ามันจะถูกต้อง) เราก็ยังต้องโดนเจ้ามือกินอยู่ดีแหละ เพราะกลยุทธ์และรวมถึงเรื่องอื่นๆ ทั้งหมดของเจ้ามือ หรือ เจ้าของเงินปริมาณมหาศาลนั้น เค้าฉลาดกว่าและเหนือกว่าพวกเราเกือบหมดทุกเรื่องอ่ะแหละ (#ไม่งั้นมันจะดูดเงินไปอยู่ที่มันเกือบหมดได้ยังไงล่ะ #บางทีมันก็โกงด้วย เอาเปรียบด้วย ทุกเรื่องอ่ะแหละที่ทำได้ 555) และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ในตลาด 80-90% มักจะขาดทุนเสมอ
- นอกจากนัั้นแล้ว ถึงแม้ว่าเราจะวิเคราะห์ได้ถูกต้อง เราก็ไม่รู้อีกแหละว่าราคามันจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงออกมาเมื่อไหร่ บางทีรอนานหลายปีจนคิดว่าคิดผิดไปแล้วก็มีนะ (พอทนไม่ไหวขายทิ้งแล้วราคามันถึงค่อยไป 555)
- เพราะในความเป็นจริงแล้วเราไม่สามารถเดาใจผู้เล่นในตลาดได้จริงๆ หรอก (โดยเฉพาะรายใหญ่เจ้าของ Fund Flow ตัวจริง) ว่าเค้าจะทำอะไร วันไหน เมื่อไหร่ที่เค้าจะ take action แล้วในตลาดก็ไม่ได้มีแค่ผู้เล่นไม่กี่ราย มันมีเยอะมากๆ แม้แต่รายใหญ่ก็ยังเยอะ แล้วมันก็ยังมีที่รายใหญ่สู้กันเองอีก แล้วใครจะแพ้จะชนะแล้วคุณจะรู้ได้ยังไง จริงป่ะ (คือ จริงๆ ก็มีคนทำได้อ่ะนะ ซึ่งมันก็คงไม่ใช่แบบพวกเราๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นเทรดแน่ๆ ใช่ป่ะล่ะ #เช่น พวกแบบระดับ Hedge Fund Manager เทพๆ ไงที่ดูดเงินพวกเราไปน่ะ)
- ยังมีอีก เช่น ต่อให้เราหาวิธีการแจ่มๆ ที่มี odd สูงๆ มาได้ (Back test/Forward test แล้วก็ตาม) ก็อย่าได้ประมาทย่ามใจก็แล้วกัน เพราะมันยังมีเรื่องของ Strategic Capacity หรือขีดจำกัดของแต่ละวิธีการแต่ละ Model อยู่ดี (ถ้าพอร์ตของเราเล็กๆ ก็ยังไม่เป็นอาไรนะ แต่ถ้าพอร์ตเริ่มใหญ่แล้วต้องเจอกำแพงตัวนี้แน่ๆ อย่างที่บอกคือ เรากำลังสู้กับคนอยู่นะ ไม่มีใครยอมให้กินตังค์ง่ายๆ หรอก #เราจะไปแบ่งเค้กกับเค้า เรามีดีพอหรือยัง?) #http://mudleygroup.blogspot.com/2010/01/mudley-group-hedge-fund-school-part-2.html
- เพราะถ้าทุกคนต่างก็งัดวิธีที่สุดยอดมาใช้กันหมด เอามาห้ำหั่นกันในตลาด แล้วทุกคนจะได้กำไรกันหมดจริงๆ หรือ แล้วใครจะเป็นคนเสียตังค์ล่ะ??? [Parrondo's paradox]
Friday 29 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #13
Method คือ อะไร#3
กลับมาต่อจริงๆ แล้วประเด็นในเรื่องของ Method ของผม ก็คือ
- ในช่วงที่เราเริ่มต้น ตอนที่เรายังไม่มี skill เราจะเอาตัวรอดและฝึกฝนวิชาจนกว่าจะรู้จริตนิสัยของตัวเองในเรื่องของการเทรดได้ยังไง โดยที่ยังไม่ล้มหายตายจากตลาดไปก่อนตะหาก => ซึ่งหลังจากรู้ที่จริตนิสัยของตัวเองแล้ว (Mental) + เริ่มที่จะมี skill แล้ว เราถึงจะสร้างองค์รวมของการเทรดที่เป็นสไตล์ของตัวเราเองขึ้นมาได้ตะหากล่ะ นี่แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด!!
- ประเด็นต่อมาของผมในเรื่องของ Method ก็คือ ไม่ว่าเราจะใช้วิธีการอะไรใดๆ ในโลกนี้ ในการ approach ตลาด หรือ product ก็ตาม ยังไงมันก็ไม่มีทางที่จะถูกต้องได้ 100% กล่าวคือ ไม่ว่าเราจะใช้วิธีการอะไรในการซื้อขาย เลือก product หรืออะไรก็ตามแต่ ยังไงก็ไม่มีวันที่จะทำได้ถูกต้อง 100% เพราะถ้ามันถูกต้องได้ 100% เมื่อไหร่ ก็เท่ากับเราทำนายอนาคตทุกเหตุการณ์ได้ทั้งหมดเท่านั้นเอง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ (ถูกป่ะล่ะ) แต่ผู้คนมากมายในตลาดกลับ (หลงทาง) เฝ้าค้นหาวิธีการที่จะทำกำไรได้อย่างแน่นอน (ซึ่งมันไม่มีอยู่จริง => ฝรั่งจะเรียกว่า No "Holy grail")
- จริงๆ วิธีการที่พอใช้ได้ม้นก็มีอยู่แหละ ไม่ใช่ว่า Fundamental หรือ Technical หรือวิธีการอื่นๆ อีกร้อยแปดจะใช้การไม่ได้ แต่เราจะใช้มันยังไงให้เหมาะสมตะหากล่ะ เพราะไม่มีวิธีการใดที่จะสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งเราก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้วิธีการที่จะใช้มันอีกอยู่ดีอ่ะแหละ
- บางวิธีการในอดีตอาจจะเคยใช้ได้ แต่ในปัจจุบันเริ่มที่จะใช้ไม่ได้แล้วก็มี หรือปัจจุบันใช้ได้ อนาคตอาจจะใช้ไม่ได้ก็ได้ หรือ วิธีการบางอย่างที่เคยเป็นความลับไม่มีคนรู้ พอคนเริ่มรู้หรือใช้กันมากๆ ขึ้น มันก็เริ่มที่จะใช้ไม่ได้แล้ว (เนื่องจากเป็น Zero-sum game) พอคนใช้น้อยลงแล้ว บางทีมันก็เริ่มกลับมาใช้ได้ใหม่ วนไปวนมาอยู่อย่างนั้น (Game theory)
- หรือมองในอีกแง่มุมนึงง่ายๆ ก็คือ สมมติว่ามี 2 ฝ่ายกำลังต่อสู้กัน ถ้าฝ่ายนึงมันใช้กลยุทธ์วิธีการรูปแบบนึงโจมตีอีกฝ่ายนึงแบบเดิมทุกวันทุกวัน ได้เงินจากอีกฝ่ายนึงไปทุกวันทุกวัน คำถามคือ แล้วอีกฝ่ายนึงมันจะยอมให้ทำแบบนั้นไปเรื่อยๆ ได้รึเปล่า สุดท้ายแล้วอีกฝ่ายนึงมันก็ต้องคิดหาวิธีการแก้เกมส์จากอีกฝ่ายนึงจนได้แหละ (ซึ่งถ้าทำไม่ได้มันอาจจะหนีเลยก็ได้นะ 555)
- พูดในแง่รวมๆ ก็คือ จริงๆ แล้วเรากำลังทำสงครามกันคนอื่นอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ (แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้น แต่จริงๆ แล้วมันก็ยังคงเป็นแบบนั้นแหละ เพราะมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยน!) ในสมัยโบราณก็ใช้อาวุธจริงรบพุ่งแย่งชิงดินแดนหรือทรัพยากรกัน ปัจจุบันมันเปลี่ยนจากอาวุธกลายเป็นเอาอำนาจของเงินตรามารบกันในระบบทุนนิยมเท่านั้นเอง เป้าหมายก็คือ การแย่งชิงทรัพยากรกันเหมือนเดิมน่ะแหละ
- สรุป คือ เรากำลังทำสงครามกับคนอยู่ คนมันไม่ยอมกันง่ายๆ หรอก มรึงตีหัวกรูทุกวันทุกวัน แล้วใครจะยอมไปยื่นหัวให้คนอื่นตีทุกวันทุกวันไปได้ตลอดล่ะ ถูกป่ะ
Wednesday 27 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #12
#ว่าด้วยเรื่องของการฝึก skill (แนว Hard core)
“Every job requires experience, and experience takes time”
________________________________________
ในหนังสือ Outliners ของ Malcolm Gladwell บอกไว้ว่า ถ้าคุณตั้งใจฝึกซ้อมอะไรไปก
คนที่ประสบความสำเร็จอาจจะม
ทำให้เป็นไม่ยาก แต่ทำให้เก่งยากโคตร:
__________________________
งานเกือบทุกอย่างส่วนใหญ่จะ
แต่ถ้าเราอยากเก่งเทพ วิธีการก็ต้องเปลี่ยนไปถูกม
ลองดูแบบจอน เมียง (John Myung) มือเบส วง Dream theater เล่นก็ได้คับ ว่าคนที่เล่นดนตรีเก่งมากๆ เป็นยังไง (จิงๆ Dream theater เค้าก็เมพทั้งวงอยู่แล้ว แต่ผมยกตัวอย่างมือเบส เพราะว่าการจะเล่นเบสให้โดด
5 Minutes to learn and a Lifetime to master:
__________________________
อีกตัวอย่างนึง คือ การเล่นหมากล้อม (โกะ) => หมากล้อมนี่เรียกได้ว่าเป็น
เพราะว่าอะไรครับ เพราะว่าหมากล้อมกระดานมันใ
http://blog.kosatestudio.com/2016/03/12/how-alphago-work/
เพราะฉะนั้น เทียบกับการเทรดแล้ว ถ้าเราเก่งจริงๆ และไม่ประมาท เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวพวก HFT หรือ Algorithms ถูกมั๊ยล่ะคับ ยังไงสมองของคนเราก็ย่อมดีก
ในเกมส์ของการเทรดนั้น มันก็วิ่งอยู่บนกฎของความน่าจะ
สุดท้ายนี้ ผมเชื่อในกฎของการเรียนรู้และทำซ้ำเสมอครับ
"สิ่งที่ยากๆ ทำบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นง่าย สิ่งที่ง่ายๆ ทำบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นความเชี่ยวชาญ"
จึงขอจบบทความนี้ด้วยคำว่า “วิริยะ”
... ความเพียรชนะทุกสิ่ง ...
(Rerun)
https://www.facebook.com/PleaseMindYourTFEX/photos/a.341305102579369.81511.221405844569296/568467033196507/?type=3&theater
https://www.facebook.com/crazygoatbuster/
Tuesday 26 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #11
Method คือ อะไร#2
โดยปกติ ผมแบ่ง Method แบบโบราณบ้านๆ ออกเป็น 2 สายหลักแค่นั้น คือ
1) สาย Fundamental หรือพวกเน้นวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
เพื่อประเมินหามูลค่าที่เหมาะสมของ Product ตัวนั้น หรือพวก Value
Investor นั่นเอง ยกตัวอย่างก็ Warren Buffet #ที่เหลือ Google
2) สาย Technical หรือพวกสายกราฟ
สายข้อมูลตัวเลข คือ เอาข้อมูลสถิติมา plot เป็นกราฟ สร้างเป็นสูตรเป็นสมการ การจับ pattern บลาๆๆ แล้ววิเคราะห์ออกมาเป็นรูปแบบความน่าจะเป็นต่างๆ แล้วก็เข้าเทรดไปตามที่เราสร้างเงื่อนไขมันขึ้นมา #ที่เหลือ Google#จบนะ #มีเยอะเลยอ่านชาตินึงก็ไม่หมด
ซึ่งในแต่ละสาย ถ้าจะเอาให้ลึกจริงๆ มันก็มีความสลับซ้ำซ้อนพอสมควร และมันก็พัฒนาแตกแขนงไปไกลมากๆ แล้วด้วย แต่ละสายแต่ละเรื่องก็คงไม่มีใครรู้ลึกซึ้งไปหมดทุกอย่างได้หรอก เอาเป็นว่าไม่พูดถึงล่ะกัน (เพราะตรูก็ไม่รู้เรื่อง 555) #ส่วนใครจะใช้สาย Mixed ก็แล้วแต่ไม่ว่ากัน
จริงๆ แล้วประเด็นในเรื่องของ Method ของผม ก็คือ
จริงๆ แล้วประเด็นในเรื่องของ Method ของผม ก็คือ
- ในตอนที่แล้วผมเกริ่นไว้ว่า ในช่วงของการเริ่มต้น ปัญหาคือเราจะรู้ได้ไงว่าอะไรคือ odd ของตัวเรา แล้วเราจะได้มันมาได้ยังไง + ได้มาแล้วต้องสามารถที่จะทำมันซ้ำได้อีกเรื่อยๆ นั่นก็คือ ความสม่ำเสมอต่อเนื่องด้วย
- ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อให้เรื่องของการฝึกฝน เพื่อให้ได้ skill แต่ละอย่างมา คือ ผมไม่เชื่อตัวเองหรอกว่า ถ้าผมอ่านหนังสือ Buffet จบซัก 10-20 เล่ม ผมจะกลายเป็น Buffet ได้ หรือ ถ้าผมไปลงเรียนสัมมนาคอร์สละกี่หมื่นกี่แสนก็ตาม แล้วกลับบ้านมาผมจะเก่งได้เหมือนแบบท่านวิทยากร คือ ผมอาจจะได้แนวคิด หรือ concept แต่ผมคงยังไม่ได้ skill แน่นอน (อ่านหนังสือว่ายน้ำ 100 เล่ม เราก็ยังว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ หรอก ถ้าเรายังไม่ได้ลงสระจริง พอลงไปแล้วก็ไม่ใช่จะว่ายเก่งเลยนะ ต้องฝึกกันอีกนานอ่ะ กว่าจะลงแข่งกับเค้าได้ และถึงลงแข่งได้ก็ไม่ได้แปลว่าจะชนะนะ 555)
- สรุป ก็คือ เราจะใช้วิธีการอะไรก็ไม่สำคัญหรอก มันสำคัญที่ว่าในช่วงเริ่มต้นนั้น เราจะฝึก skill ในวิธีการที่เราจะเลือกใช้ได้ยังไง หรือ ด้วยวิธีอะไร ให้ได้ตลอดรอดฝั่งจนกว่าจะเก่งตะหากล่ะ
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #10
#3M ในทรรศนะของข้าพเจ้า
มาเริ่มที่ M แรกกัน ซึ่งก็คือ Method
ถ้าดูจากรูปแล้วจะเห็นว่ามันเล็กมากจนแทบอ่านไม่ออกเลย แสดงให้เห็นว่ามันช่างสำคัญอาไรเยี่ยงนี้ 555
Method คือ อะไร#1
พูดแบบบ้านๆ ก็คือ วิธีการเลือก product ที่จะนำมาเทรด, วิธีการหาราคาที่จะเข้าซื้อ (Entry) และขาย (Exit) การหาจุดเข้า-ออก หรือวิธีการอาไรก็ได้นั่นแหละที่มันจะทำให้เราได้กำไร (จริงๆ มันก็ซื้อถูกขายแพงนั่นแหละ หรือ จะขายแพงก่อนแล้วค่อยกลับมาซื้อถูกก็ได้ 555)
แต่สิ่งที่สำคัญในการจะเลือกใช้วิธีการอะไร มันต้องเป็นสิ่งที่เรา (มั่นใจว่า) เก่งกว่าชาวบ้าน เรียกให้หรู คือ มีแต้มต่อ ("odd") นั่นเอง เราจะใช้วิธีการอะไรก็ได้ตั้งแต่ โยนหัวก้อย ปาเป้า ปั่นแปะ ใช้โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ การอ่านจิตคน บลาๆๆ ไปจนถึง การดูจุดดับบนดวงอาทิตย์เลยก็ได้ 555 จะใช้อะไรก็ได้จริงๆ (ปัญหาคือ ในช่วงของการเริ่มต้น เราจะรู้ได้ยังไงว่าคุณทำอาไรแล้วเก่งกว่าชาวบ้านเค้าล่ะ -*-)
และเนื่องจากว่า product ที่เราเลือกมาเทรดทุกอย่างมันก็มีแค่ราคาขึ้นกับลง คือ ไม่ว่าเราจะใช้วิธีการอะไร มันก็มีโอกาสมากๆ เลยที่มันจะถูก (ซึ่งตอนที่เราเริ่มต้นเทรด เราก็ไม่รู้หรอกว่าวิธีการที่คุณนำเอามาใช้นั่นอ่ะ มันใช้ได้จริงๆ หรือ มันแค่ฟลุ๊คเดาทางถูก ใช่ป่ะล่ะ -*-) เพราะฉะนั้น นอกจาก "odd" แล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือ วิธีการที่เรามีแต้มต่อ มันควรจะต้องใช้ได้สม่ำเสมอด้วย ถูกป่ะ (แต่ปัญหาก็คือ ในช่วงของการเริ่มต้น กว่าเราจะรู้ได้ว่าวิธีการที่เราใช้อยู่มันใช้ได้อย่างสม่ำเสมอมันต้องใช้เวลานานแค่ไหนล่ะ -*-)
ปล. ข้างบนนั่น แม้ว่าผมจะเขียนเรื่อง Method แต่ก็อธิบายด้วย Mindset ของผมนะครับ
https://www.facebook.com/crazygoatbuster/
ตัวอย่างของปรากฏการณ์ Self-fulfilling prophecy ที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ ทฤษฎีจุดดับบนดวงอาทิตย์ (sunspot theory) ที่ระบุว่าการขึ้นลงของเศรษฐกิจว่ามีความสัมพันธ์กับการสังเกตเห็นจุดดับบนดวงอาทิตย์ โดยอธิบายว่าจุดดับบนดวงอาทิตย์มีผลกระทบต่อสภาวะอากาศ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเปลี่ยนแปลงในที่สุด
ในช่วงระยะหนึ่งนั้น ทฤษฎีจุดดับบนดวงอาทิตย์มีผู้เชื่อถือจำนวนมาก จนทำให้ดัชนีตลาดหุ้นเกิดความผันผวนเพราะการสังเกตเห็นจุดดับดวงอาทิตย์ แม้ว่าความจริงแล้วระดับผลผลิตการเกษตรจะมิได้เปลี่ยนแปลงไปก็ตาม อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เกือบทั้งหมดเห็นตรงกันว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศนั้นเกิดขึ้นเพราะมนุษย์เป็นผู้กระทำ มิได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ทฤษฎีจุดดับดวงอาทิตย์จึงดูไม่ได้มีความสมเหตุสมผลนักในปัจจุบัน
Monday 25 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #9
เราเกริ่นกันมาพอสมควร ว่าเกมส์การเทรดนั้นเป็นอย่างไร โดยผมจะเน้นที่ concept และการสร้างภาพในหัวก่อน คือ การรักษาเงินต้น แล้วจึงค่อยนำกำไรไปต่อยอด โดยจะเน้นที่ MM และ Portfolio structure เป็นหลัก แต่สำหรับท่านที่เพิ่งเริ่มต้นก็จะงงๆ กับคำศัพท์แปลกๆ อีกว่า MM คือ อะไร แล้ว Portfolio structure ล่ะ คือ อะไร
คือผมก็พวกบ้านๆ อ่ะนะ อ่านมาเยอะก็จริงแต่ก็จำอะไรไม่ได้ค่อยได้หรอก เป็นพวกความจำสั้น และไม่ชอบอาไรที่มันยากๆ ด้วย 555 เพราะฉะนั้นเรื่องทฤษฎีคำศัพท์อะไรเป๊ะๆ ยากๆ ก็คงไม่เน้นมาก อาจจะเขียนผิดเขียนถูกไปก็ต้องขออภัย (อย่าด่ากันนะ) แต่ผมจะเน้นเขียนจากความเข้าใจและประสบการณ์ตรงของผมล่ะกัน
แต่เพื่อให้เข้าใจตรงกันกับชาวบ้านก็เลยต้องไปพูดถึงทฤษฎีที่เป็นสากลกันบ้าง
จากรูปด้านบนซ้ายมือ โดยปกติ เค้าว่ากันว่า แก่นของเทรดประกอบไปด้วย 3 ส่วนหรือ 3M คือ
จากรูปด้านบนซ้ายมือ โดยปกติ เค้าว่ากันว่า แก่นของเทรดประกอบไปด้วย 3 ส่วนหรือ 3M คือ
1) Method (Entry & Exit) หรือ "วิธีการ" มีความสำคัญเพียง 10% เท่านั้น
2) Money Management (MM) หรือ "การบริหารเงินหน้าตัก" มีความสำคัญ 30%
3) Mental (Psychology) หรือ "จิตใจ" สำคัญมากที่สุดถึง 60%
2) Money Management (MM) หรือ "การบริหารเงินหน้าตัก" มีความสำคัญ 30%
3) Mental (Psychology) หรือ "จิตใจ" สำคัญมากที่สุดถึง 60%
เปรียบเทียบกับอีกรูปนึงด้านขวาอันนี้คนไม่นิยมเท่าไหร่ แต่ผมชอบรูปนี้มากกว่านะ คือ Mental และ MM สำคัญมากที่สุดแยกกันไม่ออกผสมกันเหมือนตังเม ซึ่งการเป็นฐานสำคัญที่สุดของการเทรด ในขณะที่กลยุทธ์หรือวิธีการ Exit สำคัญรองลงมา สุดท้ายแล้ววิธีการ Entry ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกันมากมาย กลับมีความสำคัญน้อยที่สุด
โดยรายละเอียดของแต่ละเรื่องจะค่อยๆ อธิบายให้บทความต่อๆ ไปล่ะกันนะครับ
https://www.facebook.com/crazygoatbuster/
Friday 22 July 2016
ภาค Reborn - "จงออกนอกนอก Comfort Zone - Go Run!!!" #19
วันนี้ต้องออกไปวิ่งหลังจากที่ไม่ได้วิ่งมานาน เพราะว่าวันอาทิตย์นี้จะถึงงานวิ่งอีกแล้ว
หลังจากวิ่งเสร็จ ก็ว่าจะมาเขียน blog เรื่องการเทรดต่อ แต่ปรากฎว่าเพลีย ง่วงนอนสุดๆ
เลยไม่เอาล่ะ เขียนเรื่องเบาๆ แทนล่ะกัน
สาเหตุที่ช่วง 1-2 เดือนนี้ไปวิ่งน้อยลงก็เนื่องจากหลักๆ คือ เข้าหน้าฝนแล้ว จะไปวิ่งตากฝนก็กระไรอยู่
สาเหตุอีกอย่าง คือ มีเพื่อนของคุณภิริป่วยเป็นมะเร็ง ก็เลยได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนให้กำลังใจ
ก็ไปบ่อยพอสมควรเท่าที่โอกาสจะอำนวย แต่สุดท้ายแล้วเค้าก็จากไป ... .... ...
งานพิธีศพเพิ่งแล้วเสร็จไปไม่นาน ... .... ...
ปีที่แล้วก็มีเพื่อนของคุณภิริอีกคนนึงป่วยเป็นมะเร็งเหมือนกัน เค้าจากไปด้วยเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน
ทั้ง 2 คนมีลูกที่ยังเล็กมากๆ ด้วยกันทั้งคู่ และทั้งคู่เพิ่งอายุ 3X เท่านั้น ... ... ...
แม่ของแฟนน้องสาว ก็ป่วยเป็นมะเร็งเหมือนกันที่ไขกระดูกแล้วลามขึ้นสมอง อายุเกือบ 50 ... ... ...
ก็ไม่รู้จะเขียนอะไร คือ เราไม่รู้จริงๆ หรอกว่าเราจะมีชีวิตได้อยู่อีกนานแค่ไหน
ทุกคนก็คงไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะเป็นโรคร้าย หรือต้องพบเจอเรื่องอะไรแบบนี้กับตัวเอง หรือครอบครัว
ก็ขอให้ทุกท่านจงได้อย่าประมาทในการชีวิต จงเร่งทำความเพียรเทอญ ... ... ....
Thursday 21 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #8
How to utilize “the unbeatable legion”
Final Level!!!
__________________________
จุดประสงค์ของการเขียน page (Please Mind Your TFEX) นี้ก็เพื่อ Financial Freedom นะครับ (ดูได้จากรูป cover ของ page ที่วาดเอาไว้ หุหุ) ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เ
Key ของการเทรดหรือการลงทุนใดๆ ก็ตาม แก่นที่แท้จริงแล้ว คือ Risk management ครับไม่ใช่ Maximize profit => เราต้องอยู่รอดในสนามรบให้ไ
จากรูปด้านบนเป็นการจำลอง
กล่าวคือ เมื่อสายกองทัพใดๆ ของเราสามารถรบชนะไปเรื่อยๆ
__________________________
ย้อนกลับไปตอนที่เริ่มบทควา
เมื่อท่านพ้นจากวิถีแห่งโลก
__________________________
การเทรดเนี่ยเป็นมหากาพย์จร
จบมหากาพย์แห่งการเทรดภาคปฐ
(Rerun)
https://www.facebook.com/PleaseMindYourTFEX/photos/a.341305102579369.81511.221405844569296/579683132074897/?type=3&theater
... page เก่าเขียนค้างไว้ที่แค่นี้นะครับตั้งแต่ปี 2013 กินบุญเก่าหมดล่ะ ได้ฤกษ์ต้องเขียนต่อซะที 555 ...
Wednesday 20 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #7
How to utilize “the unbeatable legion”
Level 3 & Overview!!!
__________________________
ต่อจากตอนที่แล้ว...
กองทัพไร้พ่ายของเราซึ่งเป็
เรื่องต่อไปก็จะเป็นการยกตั
กองทัพที่ 1: “กองทัพไร้พ่าย” (The Unbeatable Legion) กองทัพนี้เป็นฐานทัพใหญ่ของ
กองทัพที่ 2: “กองทัพ Shield” สำหรับกองทัพนี้เติบโตมาจาก
กองทัพที่ 3: “กองทัพ Troop” กองทัพนี้ก็เติบโตมาจากเชลย
กองทัพที่ 4: “กองทัพ Stratagem” หรือจะเรียกว่ากองทัพ “Ultimate” ก็ได้ครับตามชื่อของกลยุทธ์
ขอต่ออีกหน่อยในรื่องของการ
หลายๆ ท่านอาจจะเห็นว่าผมเขียนเรื
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
(Rerun)
https://www.facebook.com/PleaseMindYourTFEX/photos/a.341305102579369.81511.221405844569296/576396959070181/?type=3&theater
https://www.facebook.com/crazygoatbuster/
Tuesday 19 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #6
How to utilize “the unbeatable legion
วิธีเข็นกองทัพไร้พ่ายเอาไป
__________________________
ตอนจากตอนที่แล้ว กองทัพไร้พ่ายของเราซึ่งเป็
สำหรับกองทัพ shield นั้น จะใช้กลยุทธ์กึ่งรับ กึ่งรุก คือ aggressive มากขึ้นไม่ได้เอาแต่ตั้งรับ
1) กรณีรบแพ้ เวลาเสียหาย เราก็อาจจะเสียหายประมาณซัก 1 ใน 3 ส่วน หรือ 2 ใน 3 ส่วนครับ ยังไม่ถึงกะตายหมดยกรังครับ
2) กรณีรบชนะ เราก็จะได้เชลยมาเพิ่มอีกคร
จะสังเกตได้ว่า การขยายตัวของกองทัพเราจะเป
Next Level ต่อคราวหน้าครับ...
__________________________
“In trading you have to be defensive and aggressive at the same time. If you are not aggressive, you are not going to make money, And if you are not defensive , you are not going to keep money.” Ray Dalio
https://www.facebook.com/crazygoatbuster/
Monday 18 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #5
อิทธิบาท 4
บาทฐานแห่งความสำเร็จ 4 ประการ
__________________________
เมื่อก่อนมัวแต่จะไปอ่านหนั
อิทธิบาท 4 ธรรมแห่งความสำเร็จ 4 ประการประกอบไปด้วย
1. ฉันทะ => ทำในสิ่งที่รัก รักในสิ่งที่ทำ และทำมันอย่างดีที่สุด
2. วิริยะ => ความเพียร ชนะทุกสิ่ง
3. จิตตะ => มีสมาธิ เอาใจใส่ ใส่ใจ รับผิดชอบ
4. วิมังสา => การใช้ปัญญาไตร่ตรอง สอดส่องในเหตุและผลแห่งความ
มีคำพูดที่ว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนสามารถที่จะเ
=> การเป็น Trader ที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เร
ท่านที่อยากจะเป็น Trader ที่ประสบความสำเร็จไม่ต้องไ
Sunday 17 July 2016
ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #4
How to utilize “the unbeatable legion”
วิธีเข็นกองทัพไร้พ่ายเอาไป
__________________________
ต่อจากตอนก่อนหน้านู้นนน กองทัพไร้พ่ายของเราจะเกิดข
แล้วเราเอากองทัพไร้พ่ายมาท
หน้าที่ของกองทัพไร้พ่าย คือ 1) เป็นอมตะ 2) ฝึก skill การรบให้จอมทัพ 3) จับเชลยมาให้เรา 4) เป็นฐาน Psychology ให้กองทัพอื่นๆ ต่อไปในอนาคต
ขยายความ หน้าที่ของกองทัพไร้พ่าย ได้ดังนี้
1) คงเป็นอมตะตลอดกาล เป็นหน้าที่หลัก ต้องกองทัพที่ไม่มีวันแตกสล
2) สาเหตุที่เราสร้างกองทัพไร้
3) หน้าที่ต่อมา คือ จับเชลยศึกมาให้เรา เชลย ก็คือ “กำไร” หรือ “กระแสเงินสด” ที่เราไปรบชนะแล้วจับเชลยฝั
4) เป็นฐานแห่ง Psychology ให้กองทัพอื่นๆ ต่อไปในอนาคต => เมื่อเราจับเชลยได้มากๆ เข้า กองทัพของเราก็จะแตกขยายกิ่
ก็เป็นไอเดียเบื้องต้นสำหรั
ชักจะเริ่มยาวอีกแว้ว เอาไว้ต่อคราวหน้าสำหรับการ
https://www.facebook.com/PleaseMindYourTFEX/photos/a.341305102579369.81511.221405844569296/570088076367736/?type=3&theater
https://www.facebook.com/crazygoatbuster/
Subscribe to:
Posts (Atom)