Wednesday 31 July 2013

**S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 23 (31-7-2556) => จบ 1 เดือน: ตลาดแกว่งแรงตามคาดเเล่นข่าว FOMC










เมื่อวานจะมีแถลงข่าว FOMC ก็เล่นกันแรงตามคาด Volatility สูงแบบชัดเจน ทั้ง S&P และ Gold เรียกได้ว่าขึ้นสุดลงสุด ล้างไพ่ในมือกันแทบไม่ทัน แต่ก็ยังเรียกได้ว่าแกว่งในกรอบแคบๆ แค่ 13 จุดเท่านั้น เพราะคืนนี้ และคืนพรุ่งนี้ยังมีแถลงข่าวอื่นๆ อีกมากมายเรื่อยๆ ตลาดยังคงไม่เลือกทางที่ชัดเจนครับ เราก็คงได้แต่ตั้ง zone รอ และเล่น swing แก้กลุ้มไปเรื่อยๆ

เมื่อวานแกว่งแรงก็เลยได้เทรดบ้าง เทรดเพิ่มไปอีก 38 ไม้ ได้ cashflow มา 626$ ยังไม่ได้ 1,000$ ตามเป้าซักที เมื่อวานตลาดแกว่งไปถึง zone บนที่มี position long ติดอยู่เป็นก้อนๆ ก็พยายามจะปลดออก ให้มันกระจายตัวมากกว่านี้ แต่ก็ปลดไปได้แค่นิดหน่อย เบ็ดเสร็จแล้วในมือตอนนี้มีอยู่ 9 lots เป็น long 3.7, short 5.3 ครับ

สรุปจบ 1 เดือนมี 23 วัน เทรดไป 504 ไม้ ได้ cashflow รวม 19,136$  น้อยกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่วันละ 1,000$ รวมแล้วควรจะได้ 23,000$ น้อยกว่าเป้าไป 16.8% => Expectancy เฉลี่ย 38$ ต่อไม้ครับ สรุปว่าได้เฉลี่ยต่ำกว่าเป้าทั้ง cashflow และ balance สามารถหลักมาจาก Short Bias และการ Balance position ยังไม่ดีเท่าที่ควรครับ ก็ต้องพัฒนาปรับปรุงกันต่อไป มีวินัย ทำตามแผนอย่างเคร่งครัดครับ

Tuesday 30 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 22 (30-7-2556) => V shape, sideway ในกรอบรอข่าว FOMC












เมื่อคืนก็ยังเป็นทรง V shape เหมือนเดิมตามคาด วิ่งขึ้นลงในกรอบ 10 จุดแค่นั้นครับไม่ไปไหน sideway รอข่าว FOMC เราก็ทำได้แค่เพียงตั้ง zone รอกินสวิงแคบๆ ไป เนื่องจากยังไม่มี Trend ตลาดยังไม่เลือกข้าง น้ำหนัก Position ในมือก็ยังเป็น Short กับ Long พอๆ กันครับ รอตลาดเลือกทางค่อยเพิ่มน้ำหนัก position ตามด้านนั้นๆ ไปตามแผนที่วางไว้ครับ => รอดูคืนนี้คงได้เห็นอาไรดีๆ แน่ๆ หุหุหุ

จบวันเทรดเพิ่มไปอีกแค่ 12 ไม้ ได้ cashflow มาอีกแค่ 206$ ครับ อยากจะเร่งเหมือนกันครับ แต่ทำอาไรไม่ได้ได้ ช่วงนี้ก็ร้องเพลงรอต่อไปอีกวัน ต้องท่องคำขวัญประจำใจเอาไว้ว่า "ยิ่งรีบ ยิ่งช้า" ครับ



Monday 29 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 21 (29-7-2556) => V shape แบบเบาๆ












ดูจากทรงกราฟแต่ละวันดีๆ จะเห็นว่าเป็น V shape ทั้่งนั้นเลยนะครับ เมื่อวานช่วงกลางวันบ้านเรากลางคืนบ้านเค้าก็แกว่งแคบๆ เหมือนเดิมประมาณ 5 จุด แล้วพอตอนกลางคืนก็ทำท่าจะดิ่ง เสร็จแล้วก็ V shape กลับมายืนที่เดิมซะงั้นอีกล่ะ อารมณ์ประมาณว่า TF Day ยังขึ้นอยู่นะ TF ย่อยๆ ถ้าอยากจะย่อก็ย่อไป แต่ก็จะมีแรงรับกลับมาอยู่ดี => ช่วงนี้ตลาดแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ คาดว่าคงรอ US แถลงข่าวตัวเลขสำคัญ มีคืนวันพุธ กะ วันศุกร์ครับ คืนพรุ่งนี้คงจะมี Roller coaster แน่ๆ หุหุ

เมื่อวานเทรดเพิ่มไปอีกแค่ 12 ไม้ ได้ cashflow มา 270$ หาจุดเข้า trade ดีๆ มันได้เลยครับ มันแกว่งแคบเกินไป sideway V-shape ด้วย มีโอกาสติดสูง ก็เลยได้แต่กางตาข่ายรอดักกินไปก่อน จนกว่าจะมี Trend ชัดเจนครับ ค่อย Bias ด้านใดด้านหนึ่ง ตอนนี้มี position ค้าง 10 lots เป็น short, long อย่างละครึ่งครับ

**QH วันที่ 1 (29-07-13) เริ่ม Start Port KZM เป็นวันแรก


ตอนแรกว่าจะ Back test KZM ให้เสร็จทุกกรณีก่อนทั้่ง Down-trend, Sideway และ Up-trend แต่ว่าทำไม่ทันครับ เวลาไม่พอ ถ้าจะรอเวลาให้พร้อมก็คงจะไม่ได้เริ่มแน่ๆ ผมทำงาน full time 3 อย่างพร้อมกัน ทั้ง Self-employed, Business และ Investment + Trader  เรียกได้ว่าใช้ capacity 300% ต่อเวลา 1 วัน ทำ 7 วันต่อสัปดาห์ไม่เคยมีวันหยุดมานานล่ะ ก็ค่อนข้างจะ load มากโดยเฉพาะการทำบัญชีแต่ละส่วนงาน น่าเบื่อสุดๆ => ว่าแล้วก็เริ่มเลยดีกว่าเวลามีน้อย 555

ยกตัวอย่าง: ถามว่าทำไมถึงเลือก QH
  1. เงินไม่พอในแง่ของ MM ถ้าจะ Long หุ้น SET50 ทั้งหมด คู่กะ Hedge ด้วย SET50 Future จึงจำเป็นที่จะต้องย่อส่วนลงมาทำกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่มี SSF ที่สมบูรณ์ด้วย
  2. เพราะ QH มี Single Stock Future (SSF) ที่มีสภาพคล่องสูงมากที่สุดตัวหนึ่งของตลาดหุ้นไทยเป็นเหตุผลหลักเลยครับ 555 เพราะถ้าไม่มีสภาพคล่อง ผมจะใช้กลยุทธ์ Optimal Hedge ไม่ได้
  3. ราคาหุ้นยังต่ำครับ สร้าง Zone ครอบได้ง่าย Zone Basic คร่าวๆ ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 2-5 บาท ซึ่งใช้เงินไม่เยอะมาก ปริมาณหุ้นก็ได้เยอะดีที่ราคาต่ำๆ
  4. ปัจจัยพื้นฐานปกติแทบไม่ดู แต่เพื่อความปลอดภัยก็ดูหน่อยล่ะกัน 555 => พอมาดูกวาดๆ ก็ OK อยู่ล่ะ ดูงบดูอาไรก็ OK หมดล่ะคับ => P/E 10 เท่า , P/BV 1.7 เท่า จดเอาไว้กันลืม
    • จริงๆ แล้วหุ้นที่ SEC เอามาออก SSF เค้า claim มาแล้วว่าเป็นหุ้น Blue chip นะครับ 555
    • อยู่ใน SET50 Index list ถ้าหุ้นมันไม่ดีพอก็ไม่น่าติดอีก
    • เดือนนี้เป็น New Entry เข้าสู่ SET HD list ด้วย Yield ปัจจุบันน่าจะ 4%++ ดีกว่าเงินฝากประจำ ถือว่ามี Odd ล่ะสำหรับวิธีแบบเฮียคลายเครียด ratio
    • QH ก็คือ LH ลางๆ มี Bank ของตัวเอง Back up อยู่ด้วย พี่ก็เก่ง น้องก็เก่ง connection ก็เยี่ยม ฝืมือสร้างบ้านอาไรๆ ก็ Ok มีชื่อเสียงมานานอยู่ล่ะ ผ่านๆๆ (ผมให้ 3 ผ่านเล้ยยย)
  5. Beta + Alpha มีค่า > 1 ตามสูตร OK ผ่าน ค่า Corr Coeff (pearson) เป็น + ก็แปลว่า SET ไปทางไหน QH ไปด้วยคน ส่วนค่า Coeff Determinant คือ R-square นั่นเอง คืออะไร เด่วจะกลับมาอธิบาย
  6. สำหรับหุ้นที่เราต้องการสำหรับ KZM Model ก็คือหุ้นที่ swing แรงๆ เพื่อจะได้เก็บกิน cashflow ให้ได้สม่ำเสมอนั่นเอง (โดยมีเงื่อนไขว่าเจ้ามือห้ามล้มกระดานด้วย หึหึหึ) ซึ่งดูๆ แล้วเจ้าคงไม่ล้มกระดานเพื่อจะคว่ำตัวจ้อยอย่างเราๆ ท่านๆ แน่ๆ (กร๊ากกกก)
  7. ค่า Beta จริงๆ คือ 2 เท่า แต่ว่าปู่ SET เค้าลง 2% พี่ QH เค้าซัดไป -8% เลย 555 เจ้าเค้าโหดจิงไรจิง แต่ยิ่งโหดยิ่งชอบครับ ขอแรงๆ
  8. ยังนึกไม่ออก
สรุปว่าตาม concept ที่ผมวาง Model มาเรา Port เริ่มต้นนี้คือ กองทัพไร้พ่าย หรือ Unbeatable Legion ในตำนานนั่นเอง เป็นกอง Alpha เป้าหมายคือการทำให้เป็น True Alpha ไม่มีระยะเวลากำหนด เพราะยังนึกไม่ออก ตลาดน่าจะเป็นคนกำหนดมากกว่า 555 เราก็ทำหน้าที่ของเราไปตามแผน ตามกลยุทธ์ พอได้กำไรแล้วค่อยดึงออกมากอง Beta ที่เหลือก็ balance เป็น cash แล้วก็เอามา Bet ต่อไปเรื่อยๆ หุหุหุ

โครงสร้างเบื้องตืนก็คือ Long only กับตัวหุ้นโดยใช้ KZM Model แล้วก็ใช้ SSF ปัจจุบันคือ QHU13 เน้น short only เป็นตัวปรับปรุงต้นทุนของระบบ generate cashflow บ้างแก้เหงา แล้วก็ Hedge port ไปด้วยในตัว ไม่รู้จะเรียกว่าเป็น Optimal Hedge ได้รึป่าวนะคับ หุหุหุ



คิดมากไปก็เท่านั้น ซื้อเลยล่ะกัน วันนี้ปล่อยกอง A,B ที่ zone 3 บาทไป 2 กอง แต่ซื้อจริง (ATC) ได้ที่ 2.92 บาท นะครับ พร้อมกับ Short QHU13 ไปด้วย XX สัญญา มูลค่ามากกว่าตัวหุ้น 3 เท่า เพราะมันมีสัญญาณ short อ่ะครับ ไม่ได้คิดไรมากมาย แต่ต้นทุนที่ 2.96 นะครับ

Sunday 28 July 2013

**S&P วางแผนสำหรับการเทรด Week ที่ 5 (28-7-2556)









รูปด้านบนอธิบาย stat ที่เก็บมา 20 วัน พร้อมการวิเคราะห์แบบเข้าข้างตัวเอง
เรื่องที่อยากจะเน้นก็คือ ถ้าเราเทรดเฉลี่ย 20 ไม้ต่อวัน ถ้าอยากจะได้ cashflow 1,000$ ต่อวัน ก็ต้องทำให้ได้กำไรต่อไม้เฉลี่ยที่ประมาณ 50$ แต่ปัจจุบันมันอยู่ที่ 37$ ก็ต้องหาวิธีดึง expectancy ขึ้น ซึ่งจะทำได้ก็โดยการดึงระยะการ take profit ให้ไกลขึ้น คือ take profit ให้ช้าลง (เพิ่มค่า Reward หรือความต่อยหนักเข้าไปแทน) + เพิ่มไม้ daytrade ที่ขนาด 0.5 Lot เข้าไปช่วยอีกหนึ่งไม้ ต้องเล็งแล้วถูกอย่างต่ำ 2 จุดครับ

รูปด้านล่างเป็นการวาง position แบบที่ไม่ Bias และ Lots ไม่เกิน แม้ว่าตลาดเคลื่อนตัวแบบ one way ด้านใดด้านหนึ่ง (กรอบที่วางไว้ต่อวัน คือ +,- 30 จุด เพราะจาก stat ย้อนหลังไม่เกินนี้แน่ๆ ในเหตุการณ์แบบปกติ)

Saturday 27 July 2013

**S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 20 (26-7-2556) => week นี้ดีขึ้นหน่อยแต่ยังโดน short bias เล่นงานเหมือนเดิม!!!










Week นี้ก็ยังคงโดน Short bias เล่นงานตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะตั้งโซนสำหรับรอฝั่ง long เอาไว้แล้ว แต่พอถึงช่วงกลางสัปดาห์ตอนที่ตลาดลงแรงๆ ก็ดันไปยกเลิก order ที่ตั้งรอไว้ซะงั้น (แม้ว่าส่วนหนึ่งจะกลัวว่า lot จะเกิน แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด ความผิดพลาดเกิดจาก bias ของตัวเอง) เพราะสุดท้ายแล้วตลาดก็เป็น V shape ในตำนานซึ่งเป็นทรงที่ KZM ชอบที่สุดแท้ๆ แต่เราดันไม่มีของสำหรับกิน cashflow และ run trend เดี๋ยวพรุ่งนี้จะ update แผนการสำหรับ week หน้าที่จะตัด bias ทั้งหมดทิ้งล่ะ....











มาดู Stat รวมของทั้ง week กันบ้าง ดูจาก cashflow แล้วเรียกได้ว่าห่วย เพราะ bias ทำลายตัวเองและแผนการอีกเช่นเคย ทั้ง week เทรดเพิ่มไปอีกแค่ 69 ไม้ ได้ cashflow มาแค่ 1,508$ ตกเป้าอย่างแรงงง!! Position ในมือติดอยู่ 9.35 lot ส่วนใหญ่เป็น short ที่ก้น กะ long ที่ยอดซะอีก (ตลาดมันนกระชากอารมณ์ให้เรา long ตามที่ยอดให้ผลชะงัด => กลุ่มผู้นำคนอื่นๆ ก็ติดที่ยอดกันเกือบหมดเช่นกัน) ถ้าเราดูระยะ swing ของวันกะสัปดาห์ให้ดู เราก็จะวางแผนการเล่นได้ดีกว่านี้ เด่วพรุ่งนี้มาติดตามแผนล่าสุดกัน

ผลการเทรดโดยรวมยังไม่พอใจครับ ต้องกำจัด Bias ทิ้งให้หมดให้ได้ ไร้การคาดเดา => KZM คือ คุณคือ Market Model จงทำตัวเป็นตลาด ไม่ใช่ผู้เล่นในตลาด ทำตัวเป็นเจ้ามือซะ แล้วคุณจะชนะตลอดกาล!!!!

week นี้จะพูดถึงอันดับของตัวเองเป็นครั้งแรก => สรุปก็คือ ทั้ง cashflow และ Equity ถ้าตัดคน fault ทิ้ง ก็ยังติด Top 10 ตลอดเกือบทุก week ล่ะคับ ช่วงแรกอาจจะตามกลุ่มผู้นำที่อัด lot เยอะๆ ไม่ทัน แต่สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าจะแซงได้เกือบหมดครับ คนที่เหลืออยู่ก็คือ คนที่แม่นจริงๆ เท่านั้นล่ะครับ



Friday 26 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 19 (25-7-2556) => V shape ในตำนานมาอีกล่ะ












เมื่อวานนี้ช่วงเช้าตลาดคลอเคลียอยู่ใน zone ที่ระบายสีฟ้าเอาไว้ พอหลุด zone นี้ตอนช่วงบ่ายปุ๊บก็ดิ่งทันที ตอนที่ตลาดดิ่งแรงๆ ก็กลัวจะติด long ก็เลยไปยกเลิก order ที่ตั้งรอไว้ออกหมด แถมยังไป short เพิ่มซะอีก แล้วตลาดก็กลับเป็น V shape ในตำนานโดยพลัน เรียกได้ว่าขึ้นสุดลงสุด เหมือนการล้างไพ่ทิ้งหมดเลยครับ ส่วนกล่องที่ระบายสีแดงเอาไว้ก็คือเป้าของการเด้งรอบนี้ (ตอนที่เขียนบันทึกการเทรดนี้ ตลาดก็ไปถึงโซนนั่นแล้ว ก็ดิ่งลงมาทันที 5 จุด) ช่วงนี้ Volatility ตลาดสูงขึ้นมา 2 วันติดล่ะคับ จากแกว่งวันละ 8 จุดก็มาแกว่งวันละ 16 จุดแทน 2 เท่าเลยนะนั่น แสดงให้เห็นถึงจุดเปลี่ยน trend จากขาขึ้นเป็นขาลงใช่หรือไม่ ต้องมาติดตามดูกันต่อไป (ยอดดอยอยู่ที่ 1694-95 จุด มีคนที่แข่งติดอยู่เยอะพอสมควร ณ บริเวณนั้น)

เมื่อวานแม้ตลาดจะแกว่งแต่ก็เทรดเพิ่มมาได้แค่ 10 ไม้ ได้ cashflow มา 456$ มี position ประมาณ 11 lots สัดส่วนอย่างละครึ่งคับ ดูจบสิ้น week นี้แล้ว cashflow เฉลี่ยน่าจะได้ไม่ถึงวันละ 1,000$ ล่ะคับ น่าจะได้แค่ประมาณ 900$




Wednesday 24 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 18 (24-7-2556) => ลงต่อหนัก พร้อม Volatility เริ่มมา












จากเมื่อวานที่เริ่มย้วยลง ตอนเย็นบ้านเราตลาดเริ่มออกแรงฮึดสุดท้าย หลายๆ คนที่แข่งก็คิดว่ามันคงจะขึ้นต่ออ่ะคับ ทั้งผูู้นำในลำดับที่ 1 และ 2 ต่างก็เปิด order แบบ all in ที่ 1693-94 แบบ 15 lots เต็ม max แต่พวก Momentum มันไม่ขึ้นตามมาตั้งนานแล้ว มีโอกาสติดดอยมากทีเดียว ส่วนตัวผมเองนั้นก็ใส่ไปเยอะเหมือนกันที่ราคานั้น 3.65 Lots ใส่ตามแผนก็ประมาณ 0.6 lots ที่เหลือคืออารมณ์ที่โดนตลาดพาไป 3 lots เต็มๆ มีทั้งคิดว่าจะเล่นสั้นๆ lot ใหญ่หน่อยแล้วไปปล่อยแถวๆ 1696-97 ด้วย สรุปก็ดอยอ่ะคับ ตลาดลงแรงเลยทีเดียว ยังดีที่เราแบ่งกระสุนไว้เยอะ ไม่ all in ก็เลยยังเหลือกระสุนให้เล่นต่อไปได้เรื่อยๆ => เมื่อตลาดเริ่มทำท่าจะย่อตัวแรง ผมก็เลยต้องไปไล่ปิด order ที่ตั้งรอ long ไว้ด้านล่าง จากที่ตั้งไว้ถี่มากทุกจุด ก็ต้องทำให้มันห่างๆ หน่อย เพราะกลัวตอนนอนหลับแล้วไหลลงแรงๆ เดี๋ยวตื่นมาจะมี position เกิน 15 lots ได้

เมื่อวานเทรดเพิ่มไปอีกแค่ 9 ไม้เท่านั้น ได้ cashflow มาเพิ่ม 142$ เอง คิดว่าต้องหากลยุทธ์ daytrade แบบ sniper มาเสริมล่ะ ไม่งั้นจะผ่อนเกินไป ตามพวกผู้นำไม่ทัน ที่คิดๆ ไว้ก็คือ กะว่าจะเทรดขนาด 0.5 - 1 lot ในเป้าขนาด 1-3 จุด ถ้า 1 lot 1 จุดจะได้ 50$ เราต้องการ cashflow เฉลี่ย 1,000$ ต่อวัน ก็อาจจะต้องเทรดถี่หน่อย ความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นอีก ตอนนี้ position ในมือก็มี 10 lots ล่ะเป็น long กะ short อย่างละครึ่ง ต้อง manage กระสุนดีๆ ล่ะคับ ตอนนี้พวกผู้นำเพลี่ยงพล้ำให้เราแล้วต้องใช้โอกาสนี้หล่ะสร้างความได้เปรียบ ต้อง generate cashflow ให้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มผู้นำก็จะโดนเรากดดันไปในตัว เพราะเราเป็น money machine อมตะ ปั่น cashflow ไม่หยุด หุหุหุ

Tuesday 23 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 17 (23-7-2556) => เริ่มย้วยลงล่ะคับ












ช่วงนี้ตลาด Volatility ต่ำมาก แกว่งตัวแคบๆ ออกแนวตื้อๆ ไม่รู้ว่าจะขึ้นหรือจะลงดี ทั้งวันขึ้นสุดลงสุดแค่ 9 จุด เราก็ดูไม่ออกก็ไม่พยายามจะ predict ตลาดอะไรล่ะ เล่นตามแผนการไปเรื่อยๆ ไม่กลัวติด long => เมื่อวานเทรดเพิ่มไปอีกแค่ 6 ไม้ cashflow +เพิ่ม 139$ เริ่มซาสุดๆ แต่ไปเปิดไม้ long เพิ่มอีกเต็มเลยแถวๆ 1693-94 แล้วยังติดอยู่ ตอนนี้ก็เลยมี position เต็มมือเลย 9.2 lot เป็น short 5.2 long 4.0 แต่ short ก็ยังคงมากกว่าอยู่ดีนะ => เข้าสู่ช่วงเฝ้าระวังล่ะ ถ้าตลาดไหลลงแรงๆ ต้องระวังว่าะ order จะเกิน 15 lots ยังไงก็คงไม่น่าจะลงรวดเดียวเกิน 20 ถึง 30 จุดนะ ถึงลงจิงๆ ก็ยังรอด เพราะไม้ที่ short ไว้จะหลุดออกแทน กลายเป็นไม้ long ต้องติดตามกันต่อไป...

Monday 22 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 16 (22-7-2556) => sideway up












เมื่อวานตลาดแกว่งแคบๆ อีกล่ะ ทั้่งวันขึ้นลงแค่ 8 จุด แปลว่า Volatility ต่ำ มี Trend เล่นตาม Trend ได้รึป่าวต้องดูกันต่อไป เมื่อวานเลยเทรดเพิ่มไปแค่อีก 17 ไม้ ได้ cashflow มา 376$ เริ่มซบเซา แต่ว่าแก้ไขเรื่อง short bias ไปล่ะ กลับมาตั้ง zone สำหรับ long only เต็มอัตราศึก ไม่คาดเดาและคาดหวังว่าตลาดจะแกว่งไปทางไหน เล่นตามแผนการของเราไปเรื่อยๆ ครับ แต่ตอนนี้ position ฝั่ง short ก็ยังมีเยอะอีกอยู่ จะ long เพิ่มเยอะๆ ตลาดก็ไม่ไปไหนอีก 555 ก็คงต้องนั่งร้องเพลงรอกันต่อไปคับ

Sunday 21 July 2013

**S&P วางแผนสำหรับการเทรด Week ที่ 4 (21-7-2556)

ถ้าผมคิดจากความว่าง ไม่มี Bias ล่ะ ผมจะทำอะไรต่อไปดี...
การคาดการณ์ไม่ได้ช่วยอะไร Bias ก็ไม่ได้ช่วยอะไร...
ทำตามระบบที่วางแผนมาดีกว่าครับ
เอาเป็นว่า Week ที่ 4 ดูตามทรงแล้วผมต้อง มี position long มากกว่า short 2-3 เท่าเหมือนเดิม
แต่ short มี 5.2 lots แล้ว ถ้าผมจะ long only ทั้่งหมดก็ยังได้แค่ 10 lots

กรอบการสวิง ดูจาก Stat แล้วต่อให้วิ่งทางเดียวก็คงไม่เกิน 60 จุดต่อ week
แต่ในระดับวันเราจะวางกรอบแค่เพียง +,- 30 จุดของราคาปัจจุบัน (swing ในวัน Max ไม่เกิน 30 จุด) ดังนั้นราคาปิด week ก่อน 1,690 จุด ผมก็จะตั้ง zone สำหรับ long only 1,660 - 1,690 - 1,720 คร่อมๆๆกันแบบ No bias ไม่ต้องกลัวว่า position จะติด

เพิ่มน้ำหนักกระสุนเป็น 0.3 Lots ต่อไม้ ต่อให้ติดทุก position ฝั่ง long 60 จุด ก็จะเท่ากับ 18 lots แต่โดยปกติแล้วตัวที่ปล่อยตาม zone จะหลุดออกไปเอง ครึ่งนึงของ lot ทั้งหมดอยู่แล้ว แปลว่า worst case ก็จะติดฝั่ง long เพิ่มทั้งหมด 9 lots + short เดิม 5.2 lots ก็จะแค่ 14.2 lots แต่จะเพิ่มพลังในการ generate cashflow + run trend อีก 50%

วิเคราะห์: Mark จุดที่ผมติด short position
Zone 1 :  1,594 - 98 = 1.5 Lots
Zone 2 :  1,609 - 12 = 0.9 Lots
Zone 3 :  1,639 - 42 = 0.3 Lots
Zone 4 :  1,666 - 70 = 2.1 Lots
Zone 5 :  1,677         = 0.4 Lots
                        Total = 5.2 Lots

=> ถ้าโชคดีตลาดย่อ 15 จุด แล้ว V shape กลับก็จะหลุดออก 2.5 Lots ครับ

Friday 19 July 2013

**S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 15 (19-7-2556) => week นี้โดน short bias เล่นงานครับ แย่แว้ว!!!

Week นี้ผมโดน short bias เล่นงานเข้าอย่างจัง เนื่องจากทัศนคติในการเทรดที่ผิดครับ คือ เราไป focus ในผลลัพธ์ที่เราอยากจะได้ซึ่งก็คือ ต้องการดึง Equity ขึ้น เนื่องจากเรามีตัวที่มี position short อยู่ด้านล่าง เวลาตลาดยิ่งขึ้น Equity เราก็ยิ่งติดลบ ดังนั้นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่คนโง่ๆ อย่างผมคิดได้ก็คือ ต้อง bias short แล้วแช่งให้ตลาดลง!! ดูโง่เง่าจิงๆ คับ คือ แม้ว่า Technical หรือ indy อาไรต่างๆ มันบอกว่าตลาดควรจะย่อได้แล้ว แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องย่อถ้ามันยัง Bullish มากๆ อยู่ แต่กลับกลายเป็นว่าเราเน้นไปที่ผลลัพธ์มากเกินไป ทำให้เราเกิด bias ในใจ อยากจะให้ตลาดเป็นไปอย่างที่ใจเราคิด (ใจจริงคิดแค่ว่ามันควรจะย่อแค่ 10 จุดมาสัมผัสแถวๆ 1,663 แต่มันย่อลงมาแค่ 1,665 แล้วก็ขึ้นยาวเลยคับ) => สุดท้ายก็ทำให้เราไม่ได้ทำตามแผนการที่เราได้ออกแบบมาดีแล้วว่าเราจะไม่ predict ตลาด เราจะเน้นการสร้าง cashflow และรักษา equity และไม่กลัวที่จะมี position ที่ต้องติดลบเพราะ stop loss ไม่ได้ครับ... น่าเศร้าจริงๆ แสดงให้เห็นถึงความอ่อนหัด และอ่อนแอในตัวเราเป็นอย่างยิ่ง

"Focus on process, not result" => ระบบผมออกแบบมาแล้วสำหรับตัวเองที่ไม่มีเวลาดูซักเท่าไหร่ ดังนั้นผมควรจะทำตามระบบที่ผมออกแบบมาดีแล้วอย่างไร้จิตใจไม่ Bias ครับ... week นี้ผมพอมีเวลาแล้ว ผมจึงข้อบันทึกข้อผิดพลาดทั้งหมดของตัวเองเพื่อแก้ไขต่อไปครับ สงครามยังไม่จบ ผมจะไม่มีวันยอมแพ้กลางทางแน่ๆ => เกมส์ๆ นี้แข่งกันที่ใครผิดพลาดน้อยที่สุด ไม่ใช่ใครถูกต้องมากที่สุดครับ

สรุปข้อผิดพลาดของการเทรดสัปดาห์ที่ 3
  1. ไม่ได้วางแผนการเทรดแบบละเอียด => สัปดาห์ก่อนผมมัวแต่ไปทำข้อสอบรอบพิเศษ Mudleygroup ใช้เวลาทั้งเสาร์อาทิตย์เต็มวันก็เลยไม่ได้มาวางแผนละเอียดแบบสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดแค่ว่าก็แค่ตั้ง order ตามน้ำไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างเดิม แค่กำหนดกรอบการสวิงขึ้นลงของสัปดาห์ +,- 40 จุดก็พอ แต่นั่นยังไม่เพียงพอครับ
  2. Short bias => ไม่เพียงพอเพราะว่า ผม Bias short ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ทำให้ผมปิด position ที่กำไรทิ้งไปทั้งหมด เพื่อคาดหวังว่าตลาดจะย่อลงมาเพื่อลด equity อย่างที่ผมตั้งใจไว้ ซึ่งความคาดหวังมันก็มีแค่ถูกหรือผิด พอไม่เป็นอย่างที่ใจเราคิด เราก็ยิ่งกระวนกระวาย เพราะไอ่ที่ตั้งใจไว้ มันไม่เป็นอย่างงั้น Equity ก็ยิ่งแย่ขึั้นไปอีก ทำให้เราก็ต้องไปเน้น day trade อีกด้วย position ที่ใหญ่ขึ้นอีก พอพลาดก็ติดเพิ่มอีก (การ day trade ควรจะทำเฉพาะด้าน long only เพื่อ against short position ที่ติดอยู่เท่านั้น แต่ผมก็ดันไปเทรดทั้ง short ทั้ง long พอตลาด one way up ตัว short ก็ติดเพิ่มขึ้นอีก อนาจยิ่งกว่าเก่า
  3. กลัวที่จะ Long ตามระบบ => คราวนี้พอ Short bias ผิด ตลาดมันก็ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งกลัวเข้าไปอีก เพราะว่ากลัวจะติดดอยเพิ่ม กลายเป็นกลัวว่าจะติดทั้่ง short (ที่ก้น) และ long (ที่ยอด) => ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ถ้าผมไม่ bias short => ถ้าไม่ bias ผมก็จะไม่ปิดตัวที่เป็น long position ที่สะสมมาตั้งแต่ 1,610 จุด พอตลาดยิ่งขึ้น จำนวนไม้ long ก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ เป็น Snow ball ฝั่ง long ที่สะสมมา ซึ่งลูกมันก็จะใหญ่ไปเรื่อยๆ ฝั่ง short ก็จะไม่มีเพราะว่ากฎบอกว่ายิ่งขึ้นก็ควรจะต้องมี long position มากกว่า short อยู่ 2-3 เท่าอยู่แล้ว => ซึ่งถ้าเราทำตามแผนการมาเรื่อยๆ เราก็จะไม่กลัวติดไม้ long ที่ยอด เพราะว่า Cashflow กับ Equity มันโตไล่ๆ กันมาเรื่ีอยๆ ถึงตลาดย่อตัว position ที่ติดที่ยอดเราก็จะไม่กลัวเพราะว่าเราออกแบบระบบมาให้ position ติดได้อยู่แล้ว => Mental เราก็จะไม่เสียด้วย เพราะว่ามันมาตามแผนการทั้งหมด... สรุปว่าการเน้นที่ result มากเกินไป จะทำให้เราเร่ง พอเร่งก็จะผิดพลาด (เพราะ Volatility ของตลาดในระยะสั้นเราไม่สามารถคาดเดาได้ ยิ่งเพ่งก็ยิ่งอยากจะตะครุบเหยื่อที่เค้าล่อ ซึ่งจะทำให้พลาดได้ง่าย) แล้ว Mental ก็จะเริ่มแย่ ตามกันมาเป็นลูกโซ่...
  4. วินัยในการทำตามระบบและแผนการ => ถือว่า fail พอหลุดจากแผนการแล้วก็หลุดโลก แทนที่จะรักษา Gap ระหว่าง Balance และ Equity ให้ติดลบไม่เกิน 2,000 - 3,000$ แล้วก็ไปเน้นสร้าง cashflow ให้ได้วันละ 1,000$ ตามแผน ก็ดันไปปิด long ทิ้งหมดแล้วดันไม่เพิ่ม long เพิ่มที่ต้นทุนสูงๆ เพราะกลัวติดดอยอีกด้วย


จบสัปดาห์ที่ 3 เทรดเพิ่มไปอีก 122 ไม้ ได้ cashflow เพิ่มมาแค่ 3,491$ ขนาดว่านับตัวที่ run trend ขึ้นมาเยอะๆ แล้วยังได้เฉลี่ยไม่ถึงวันละ 1,000$ เพราะว่า Short bias นั่นแหละครับ การตั้ง zone สำหรับฝั่ง long เลยโหรงเหรงมากไม่มีทั้งตัว generate cashflow ทั้งตัว run trend เหลือเลย ตัว hedge ก็ไม่มีอีก เรีกกได้ว่าแย่ครบสูตร => จบสัปดาห์มี position ค้างอยู่ 5.2 lots เป็นฝั่ง short เกือบทั้งหมด Floating P/L ติดลบ 14,000$ => ตลาดสวิงเฉลี่ย 14 จุดต่อวัน ก็ถือว่า Volatility ไม่ได้สูงขึ้นจาก Week ก่อน แสดงว่าการเทรดตาม Trend จะดีกว่าการเทรดแบบ Swing ซึ่งใน Week เราควรจะสังเกตระดับของ Volatility ให้ดี ถ้าเริ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะ ถึงจะให้เริ่มระวังการย่อตัวหรือการเปลี่ยน trend ครับ












Stat โดยรวมถ้าดู Cashflow ก็ยังพอได้ แต่ Equity กากมักๆ














\

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 14 (18-7-2556) => พุ่งขึ้นแล้วไหลลง












เมื่อวานมีประกาศตัวเลข Jobless claim ของ US ประกาศตอนกลางคืน แนวต้านที่สำคัญแถวๆ 1,680 ก็สามารถฝ่าไปได้ แต่พวก momentum ในระดับ 1, 4 hrs มันดูไม่มีแรงเอาเสียเลย สุดท้ายราคาก็พุ่งขึ้นไปแล้วก็โดนทุบกลับลงมาอยู่ดี ตอนนี้ก็ยังคง bias short อยู่เพื่อลด gap ระหว่าง equity กะ balance

สรุปเมื่อวานเทรดเพิ่่มไปอีก 33 ไม้ ได้ cashflow มาแค่ 407$ ไม่มีไม้ run trend เลยคับ จะ hold ยาวๆ ก็กลัวติด เพราะวันต่อมาก็ไหลลงอยู๋ดี ไม้ที่ต้นทุนเกิน 1,680 ในฝั่ง long พอมีกำไรปุ๊บผมก็รีบโยนออกเลย bias สุดๆ ตอนนี้มี position ในมือรวม 6.5 lots เป็น short ถึง 4.7 lots หุหุหุ T T ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ

Thursday 18 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 13 (17-7-2556) => Swing แต่ยังไม่ยอมลงแฮะ












เมื่อวาน TF 1 Hr เป็น deadcross แล้ว และ MACD ต่ำกว่า 0 แล้ว  แต่ยังไม่ยอมลงซะทีเดียว แต่ได้แป๊บเดียวก็ดีดกลับขึ้นมาใหม่ เป็นเพราะอิทธิพล momentum ของ TF 4 Hr แม้ว่าจะหมดแรงย้วยลงเรื่อยๆ แล้ว ยังไม่ต่ำกว่า 0 ในขณะที่ TF day ยังดูดีอยู่ => การที่จะดึง equity ขึั้นมาได้ ความหวังเดียวของเราคือรอให้ตลาดย่อตัว เลยทำให้ต้อง bias short ซึ่งมันไม่ดีเลยครับ bias มากๆ ดวงตาก็จะไม่เห็นความเป็นจริง ใจก็อยากจะให้ตลาดเป็นอย่างที่เราเป็น ทั้งๆ ที่เราก็ไปบังคับมันไม่ได้... ถ้าหลุดจาก position ที่ติดได้แล้ว ต้องกลับมาปรับกระบวนทัพใหม่ ไม่ให้ bias ด้านใดด้านหนึ่ง เน้นแต่แผนการเพื่อ balance position แบบเดิมดีกว่า...

สรุปวันนี้เทรดเพิ่มไปอีก 24 ไม้ ได้ cashflow มาอีก 448$ แต่ Equity ดันหลุดโลก +แค่ 5,114$ เท่านั้น gap ถ่างเพิ่มจาก balance เมื่อวานอีก 1,000$ ยิ่งรีบยิ่งช้าจริงๆ ครับ เพราะดันมี bias ด้าน short มาเกินไป ตอนนี้ short เต็มอัตราที่ทำได้แล้วคือ 5 lot ที่เหลืออีก 10 lot ต้อง long only แล้วครับ ต้องแก้เกมส์กันต่อไป...



**บันทึกความคิด 18-7-2556 - การเสริมแรงของแต่ละ Time Frame เมื่อเกิดการ agree ซึ่งกันและกัน

**มีความคิดที่แว๊บขึ้นมาก็คือ การเสริมแรงของแต่ละ TF สมมติ TF week เป็นขาขึ้น TF day ก็จะเป็นขาขึ้น แต่ก็จะมีย่อบ้างไรบ้าง เมื่อเรา Zoom เข้าไปเป็น TF 4 Hr 1 Hr จนถึงรายนาทีมันก็จะเป็นนคลื่นขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาไม่หยุดนิ่งเป็นเส้นตรง แต่ว่าเราควรจะ Bias การเล่น ด้านเดียวกับด้านที่ TF ใหญ่เป็นอยู่ เหมือน Trigger ของ TF ย่อย agree ไปในด้านเดียวกับที่ TF ใหญ่ bias อยู่มันก็จะเป็นการเสริมพลังซึ่งกันและกัน ถูกมั๊ยล่ะคับ ก็คล้ายๆ กับการวัด fibo หลาย loop ให้ agree กันเนื่องจาก จุดที่หลายๆ TF มา agree กันก็ย่อมมีพลังเนื่องจากมีผู้เล่นอาศัยอยู่ในนั้นเป็นจำนวนมาก

เด่วไปหาภาพตัวอย่างมาประกอบด้วยนะ ว่า Low risk High return มีอยู่จริงในโลก

ยกตัวอย่างคู่จิ้น
เช่น TF Week คู่กับ TF day, TF day คู่กับ 4 Hr, TF 1 Hr คู่กับ 15 min เป็นต้น
สมมติเราเล่นเร็วๆ เมื่อ TF 1 hr ฟอร์มตัวจนเป็น strong form ด้านขาขึ้น จากนั้นเราก็มาหา Trigger ใน TF 15 min ในด้านที่เป็น long bias only แค่นั้น => TF 1 Hrs ขึั้น , Trigger 15 min ลั่น => ทำให้ 2 TF วิ่งไปในทิศทางเดียวกันและเสริมแรงซึ่งกันและกัน ซึ่งก็จะดีขึ้นไปใหญ่ถ้า TF Day & Week ก็เป็นขาขึ้นด้วย (แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ถ้าสมมติเราเน้นเข้าเร็วออกเร็ว)



เส้น Horizontal สีเขียว คือ ST trend established, สีน้ำเงิน คือ LT trend established


Tuesday 16 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 11 - 12 (15,16-7-2556) => ขึ้นแบบอ่อนแรง ก็คงต้องย่อบ้างไรบ้าง













เมื่อวานไม่มี notebook ใช้ก็เลยไม่ได้บันทึกการเทรดเลยครับ พวก stat จากใน MT4 ที่เป็นแบบวันต่อวัน พอผ่านมาแล้วจะไปย้อนอดีตดึงออกมาก็ไม่ได้ ก็เลยต้องขอบันทึกการเทรดแล้วรวบ 2 วันเลยล่ะกันนะครับ => เทรดเพิ่มอีก 2 วันก็อีก 50 ไม้ รวมเป็น 311 ไม้ล่ะคับ ได้ cashflow มาเพิ่มเป็น 2,285$ ซึ่งแท้จริงแล้วเกิดจากการปิด position ที่ hedge มาจากด้านล่าง เนื่องจากทรงกราฟที่เราแสดงให้ดูก็จะเห็นว่า ราคามันขึ้นแต่ Momentum มันไม่ขึ้นแล้ว ทั้ง 4 Hr และ 1 Hr มันย้อยลงเรื่อยๆ รอหมดแรง ซึ่งแผนการของเราตอนนี้ต้องดึง Equity ขึั้นก็เลย ต้องปิดฝั่ง long ทิ้งเยอะๆ คงเหลือฝั่ง short ไว้ในอัตราส่วนที่สูงกว่า ซึ่งคืนวันอังคารในที่สุด TF 1 Hr ก็หลุดแนวรับแรกจนได้ EMA กลายเป็น deadcross และ MACD ต่ำกว่า 0 ไหลลงไปรวมๆ แล้วก็ 13 เหรียญ (อร่อยเลย) ก่อนที่จะ rebound เล็กๆ กลับขึั้นมา ทำให้ Equity เราดึงขึ้นมาได้เกือบ 1,000$ ก็ ok อ่ะครับ

ตอนนี้ถ้าดูยอด cashflow อย่างเดียวก็ได้ 15,000$++ ล่ะ เป้าของทั้งเดือนมี 23 วันก็ 23,000$ ยังขาดอยู่อีก 8,000$ ถ้ามองเฉพาะ week นี้ก็ได้ตามเป้าล่ะ แต่ Equity ยังอยู่แถวๆ +6,000 ซึ่ง gap ห่างจาก cashflow อยู่ถึง 9,000$ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ควรจะเกิน 2-3,000$ เพราะฉะนั้นหยุดงานปั่น cashflow ได้ล่ะ ต้องเน้นกลยุทธ์ทำไงก็ได้ให้ Equity ขึ้นมาอีก 6,000$ ให้ได้ ต้องคิดแผนกันต่อไปครับ...

Monday 15 July 2013

**S&P วางแผนสำหรับการเทรด Week ที่ 3 (14-7-2556)












สำหรับ week ที่ 3 เนี่ย โซนที่คีย์ order รอเอาไว้แน่นมากๆ แล้ว เวลา zoom out เพื่อดูภาพรวมเนี่ยแทบจะมองไม่เห็นตัวกราฟล่ะคับ เรียกได้ว่าแน่นมากๆ จึงขอกำหนดกรอบการเทรดสำหรับ week ต่อไปเลยด้วยวิจารณญาณและประสบการณ์ของผมเองเลยล่ะกันนะครับ คือ +,- 40 จุดจากราคาปิด week ก่อนที่ประมาณ 1,670 จุดครับ เพราะฉะนั้นกรอบก็คือบริเวณ 1,630 - 1,710 โดยให้น้ำหนักทิศทาง คือ ย่อตัวเพื่อขึ้นต่อครับ เพราะฉะนั้นตอนนี้ position ในมือของผมนั้น ณ เช้าวันจันทร์ก็จะมีปริมาณ Long ต่อ short ในสัดส่วนประมาณ 1:1 ล่ะคับ เพื่อที่จะดัน Equity ให้เพิ่มขึ้น ก็ต้องลดจำนวน position ฝั่ง long ในมือลง แล้วรอให้ราคาย่อตัวลงมา ซึ่ง gap ระหว่าง Equity และ Cashflow จะแคบลง แล้วหลังจากนั้นเราค่อยๆ ทยอย long กลับขึ้นไปโดยคงสัดส่วนระหว่าง long:short ในอัตราส่วน 2:1 หรือ 3:1 ตามเดิม

โดยแนว idea มันก็ใช้ได้นะครับ แต่มันไม่ดีตรงที่เราต้องมานั่ง predict ตลาดอีกล่ะ ซึ่งผมไม่อยากจะทำแบบนั้นเลย อยากที่จะพยายามหลุดจากวงจนนี้ไปให้ได้ แต่ตอนนี้ยังคิดวิธีที่จะดึง Equity ขึ้นมาด้วยวิธีอื่นไม่ออกครับ

=> เดี่ยวจบ week นี้มา review กันว่าจะเป็นยังไงต่อนะครับ

Sunday 14 July 2013

**S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 10 (12-7-2556) => ก็ยัง sideway up นะ หุหุ












วันศุกร์ที่ผ่านมาก็ไม่รู้อาไรครับ ตลาดสวิงน้อยมากประมาณแค่ 10 จุดเท่านั้น ดูจาก momentum แล้วการแกว่งทางขึ้นน่าจะไม่รุนแรง ทางลงมีโอกาสมากกว่า คือ bias ว่าน่าจะย่อลงแล้วขึ้นต่อ ก็เลย action โดยการทยอยปิด position ที่กำไรครับ => รวมเทรดเพิ่มด้วยวันนี้ก็ 29 ไม้ ได้ cashflow รวมมา 6,281$ ทำให้ค่า expectancy ถูกดึงขึ้นมาจาก 30 กลายเป็น 50$ ต่อไม้เลยทีเดียว












สรุปจบ week ที่ 2 เทรดเพิ่มไม้ 118 ไม้ รวมกับ week แรกด้วยก็เป็น 261 ไม้แล้วครับ ถือว่าเทรดรัวที่สุดล่ะ week ที่ 2 เทรดได้ลดลงเนื่องจากตลาดแกว่งตัวแคบมากเฉลี่ยทั้งสัปดาห์แค่ 14 จุดต่อวันเท่านั้นเองครับ (week 1 เฉลี่ย 21 จุดต่อวันต่างกันเยอะเลยนะคับ) โดยภาพรวมแล้วก็เน้น long only เหมือนเดิม มี position ค้างในมือเฉลี่ย 7.5 lot balance ratio ก็เกือบๆ 2:1 มีฝั่ง long น้อยไปหน่อยครับ แต่การบ้านก็คือ ต้องพยายามดึง Equity ในตาม cashflow ให้ทันด้วย => สัปดาห์นี้ต้องทำข้อสอบรอบพิเศษ 4 ข้อของพี่ลิง ทำให้บันทึกการเทรดช้าลงไปเลยครับ ข้อสอบค่อนข้างใช้เวลาในการทำพอสมควรเลยทีเดียว












มาดูกราฟ Cashlfow กันบ้าง พอปิดทำกำไรตัวที่ต้นทุนดีๆ ก็ทำให้กราฟพุ่งขึ้นเลย แต่ว่า Equity ก็ยังกองอยู่ข้างล่างที่ประมาณ 5,500$ เหมือนเดิม

Friday 12 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 9 (11-7-2556) => sideway ของจริง












หลังจากลุงเบนแถลงเมื่อคืนก่อน วันต่อมาก็เงิบกันหมดเลยคับ วันทั้งวัน sideway อยู่ในกรอบแค่ 7 จุด ถือว่าน้อยที่สุดตั้งแต่ดูๆ มาเลยครับ จบวันเลยเทรดเพิ่มไปแค่ 18 ไม้ ได้ cashflow มาเพิ่มแค่ 382$ มี position ค้าง 7.9 lots Balance ratio อยู่ที่ 1.93 เท่า และ Floating P/L เหลือติดลบแค่ 1,173$ เท่านั้น ทุกอย่างดูดีหมด ตามแผนงานที่ตั้งใจไว้ จะติดอยู่ที่ว่าได้ cashflow ไม่เข้าเป้าที่เฉลี่ยวันละ 1,000$ ซึ่งตอนนี้เฉลี่ยได้แค่วันละ 750$ ถ้าตัด effect จากวันหยุดเมกาไปอีก 1 วันก็จะเฉลี่ยเพิ่มขึ้นกลายเป็น 844$ ต่อวัน => ก็เลยคิดทบทวนแล้วว่า position เราเล็กเกินไปรึป่าวหว่า ตอนนี้ค่า expectancy เฉลี่ยอยู่ที่ 30$ ต่อไม้เท่านั้น ถือว่าน้อยที่สุดใน trader ทั้งหมดที่แข่งแล้ว แต่ก็เทรดจำนวนไม้มากที่สุดด้วยเช่นกัน เป็นสไตล์เล็กสั้นขยันซอยว่างั้น => safe trade สุดๆ

วันนี้คิดว่าจะปิดทำกำไรไม้ใหญ่เพื่อเก็บ cashflow ขึ้นมาล่ะ แล้วเอากระสุนที่ได้คืนมาขยายขนาด position ต่อไม้ให้ใหญ่ขึ้นซัก 25-50% จะดีมั๊ย เพราะปกติ lot ที่ใช้อยู่ส่วนมากแล้วจะไม่เกินครึ่งนึงของกระสุนที่มีทั้งหมดอยู่แล้ว => เด่วสุดสัปดาห์มา review แผนใหญ่กันอีกทีนะครับ

Thursday 11 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 8 (10-7-2556) => คืนนี้ลุงเบนแถลง!!!












วันนี้ลุงเบนจะแถลงตอนกลางคืน ตอนกลางวันก็เลย sideway รอชัดเจนครับ ไสขึ้นไสลงไปมาในกรอบประมาณ 3-5 จุด พอถึงเริ่มตอนตี 1 FOMC ออกมาแถลงการณ์เท่านั้นแหละ S&P ก็สวิงขึ้นลงซะใจเลยครับ แต่เสียดายที่ผมติดภารกิจเลยไม่ได้อยู่เทรด ตั้งใจว่าจะคีย์ order สำหรับ run trend เพิ่ม เพราะวิเคราะห์มาตั้งแต่ต้นสัปดาห์แล้วว่า ยังไงๆ ก็ต้องไปเจอกันที่จุดนัดพบ ณ 1,660 จุด พอนอนหลับไปตื่นขึ้นมาปรากฎว่าตลาดก็ขึ้นไปยืนอยู่ที่ 1,663 จุดครับ (ทั้งๆ ที่ตอนลุงเบนแกแถลงเสร็จยังอยู่ที่ 1,646 จุดไม่ไปไหนเลยแท้ๆ - การวิเคราะห์หรือคาดเดาจากข่าวในตลาดทำได้ยากจริงๆ ครับ) ทำให้ order ในโซน 1,650 - 1,660 จุดที่ตั้งเอาไว้ปิดทำกำไรไปหมด ไม่เหลือตัว run trend เลย T T (สัปดาห์นี้ติดภารกิจช่วงกลางคืนไป 2-3 วันล่ะ เลยไม่ได้ daytrade เพิ่มเลย)

ตอนจบวันสรุปเทรดเพิ่มไปอีก 27 ไม้ ได้ cashflow มาเพิ่มอีก 988$ Balance position อยู่ที่ 1.66 เท่า 7.7 lots ยังน้อยกว่าที่ตั้งไว้ เพราะว่าตัว run trend ยังไม่มี วันต่อไปก็ต้องเน้น long position ให้ดีขึ้นแล้วครับ เพราะว่าต้นทุน long ชักจะแพงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว => โซนข้ามจาก 1,630 - 1,660 จุด มาเป็น 1,660 -  1,690 จุดตามที่ได้วางกรอบการเล่นไว้ตอนต้นสัปดาห์แล้วครับ


S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 7 (9-7-2556) => Swing up trend














ผ่านไปวันที่ 7 วันนี้ไม่มีอาไรมากครับ ขึ้นลงในกรอบแค่ 15 จุด ยังคงเป็น up trend ชัดเจน เราก็ bias หน้า long ตามแผนการ แต่ตลาดไม่ค่อยสวิงเท่าไหร่ จบวันก็เทรดเพิ่มไปอีก 31 ไม้ ได้ cashflow มา 741$ ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่ทยอยปิดทำกำไร เพื่อพยายามจะมาเน้นเทรดเองบ้างเร่งทำ cashflow อีกหน่อย กับปิดเพื่อให้ได้กระสุนกลับคืนเผื่อตลาดจะย่อลงมารับทำ V shape มี position ค้างในมือ 6.7 lots ในอัตราส่วน long:short ที่ 1.68 เท่า ที่เหลือน้อยก็เพราะว่าปิดทำกำไรไปส่วนใหญ่นั่นเองครับ

Monday 8 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 6 (8-7-2556) => Go Go Go Up Trend!!!












เริ่มการแข่งเทรดวันแรกของ week ที่ 2 => ตอนนี้ก็คงต้องบอกว่า Bias Long เต็ม stream ครับ ในรูปที่เห็นเป็น TF 1 hrs เส้นสีน้ำเงินคือ Trend line แนวต้านใหญ่ระดับ day ซึ่งราคาสามารถทะลุแล้วยืนอยู่เหนือแนวต้านได้กลายเป็น golden cross ถ้าเป็น technical ก็ต้องบอกว่านี่มันสัญญาณซื้อแบบ classic ชัดๆ หุหุ แต่เราไม่ได้ใช้ technical ในการเทรด เราเอามาแค่ใช้ bias สำหรับการ balance position ของการเทรดแบบ fraction เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ bias long หน้าที่เราก็คือ ต้องให้น้ำหนักฝั่ง long มากกว่า short อย่างน้อย 2 เท่าขึ้นไป อย่างมากก็ไม่ควรเกิน 3 เท่าครับ ไม่งั้นก็จะออกแนว too confident หุหุ

ตอนนี้พอตลาดเริ่มมี trend ชัดเจนแล้ว ไม่ได้ออกแนว sideway เราก็ไม่ต้องรีบร้อนทำรอบ ทำ cashflow มากนัก หน้าที่เราตอนมี trend ก็คือ ต้อง run trend ครับ โดยต้องเก็บ position ที่ต้นทุนดีที่ราคาต่ำๆ เอาไว้ run trend ในขณะเดียวกัน position ย่อยๆ ที่เรา follow buy มาตามทางทุกราคาส่วนหนึ่ง ก็มีหน้าที่เก็บ cashflow ไปเรื่อยๆ ตามโซนหรือตามเป้าที่เราตั้งไว้เพื่อ take profit นอกจากนั้น position ที่เรา follow buy อีกส่วนหนึ่งก็มีหน้าที่ run trend ไปเรื่อยๆ ให้ position ที่เรามีถูกด้านมันก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าแบบนี้จะเรียก snowball ได้มั๊ย

วันที่ 6 นี้เทรดเพิ่มขึ้นมาอีกแค่ 13 ไม้ เนื่องจากส่วนใหญ่เก็บไว้ run trend เลยยังไม่ได้ take profit ครับ มีแต่จะเปิด position ฝั่ง long เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ให้ได้ตามเป้า => ตอนกลางคืน ตลาดก็มีสวิงบ้าง แต่ว่าอยู่เทรดไม่ไหว เมื่อคืนก่อนนอนเกือบตีห้า แล้วตื่นเจ็ดโมง ร่างกายไม่ไหวจริงๆ ก็เลยนอนดีกว่าครับ

Sunday 7 July 2013

**S&P วางแผนสำหรับการเทรด Week ที่ 2 (7-7-2556)












ผ่านไป 1 week รูปทรงกราฟก็เริ่มจะชัดเจนขึ้น ก็ยังคงต้อง Bias มาทั้งฝั่ง long เหมือนเดิมครับ ตลาดปิดอยู่ที่ประมาณ 1,628 ตีว่าเป็น 1,630 จุด แล้วแบ่งโซนย่อยๆ ออกเป็นโซน 3 โซนๆ ละ 30 จุดตามรูป ก็จะได้กรอบสำหรับการเทรด week ที่ 2 อยู่ที่ 1,600 - 1,690 จุด โดยเน้นสัดส่วน long : short อยู่ที่ 2:1 ถ้า Bullish มากสามารถข้ามโซน 1,660 ไปได้ก็จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 3:1 ครับ

ณ ตอนปิดตลาด week ก่อน position ในมือมีสัดส่วน long : short อยู่ที่ 1.14:1 หน้าที่ของเราก็คือพยายาม เพิ่มสัดส่วนให้ได้เป็น 2:1 โดยให้มีต้นทุนฝั่ง long ต่ำที่สุด เพื่อประโยชน์ในการ run trend ครับ => ถ้าตลาดกลับเป็นขาขึ้นเต็ม stream เมื่อไหร่ เราก็ต้องพยายามสะสม position ตามขึ้นไปให้ได้ครับ โดยมีทั้งส่วนที่ยังคง generate cashflow เหมือนเดิม และพยายามรักษา position ที่ต้องเก็บไว้เพื่อ run long term trend ให้ได้ด้วยครับ

Friday 5 July 2013

**S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 5 (5-7-2556) => ขึ้นสุดลงสุดอีกแล้ว + สรุปผลการเทรด Week 1












และแล้วก็ครบ 5 วัน เราเก็บภาพระยะสวิงของกราฟรายวันตามสีเลยครับ สรุปว่าทั้ง Week ที่ 1 เป็น sideway up ตามคาดที่เรา Bias ด้าน long เอาไว้ตามแผนการ => ช่วงคืนวันศุกร์มักชอบมีการประกาศตัวเลขอาไรต่างๆ อย่างคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาก็มีการประกาศตัวเลข unemployment ของเมกา (ตลาดก็สวิงเลยครับ จาก 1,630 จุดโดนกดลงมาจนมิดเหลือ 1,606 จุด ในรูปเป็น TF 1 hr จะเห็นได้ว่าเป็นรูป pin bar ยักษ์ แต่พอราคาโดนกดลงไปโดนเส้นค่าเฉลี่ยก็โดนดันกลับขึ้นมาอีกเป็น pin bar เช่นกัน เรียกได้ว่า เป็นการสู้กันระหว่างแรงขายกับแรงซื้อ แต่สุดท้ายแรงซื้อก็ชนะไปตามคาดครับ อิอิ













สรุปการเทรดวันที่ 5 เทรดเพิ่มมาอีก 39 ไม้ เนื่องจากต้องเร่งปั่น cashflow นิดนึงก็เลยต้องมา day trade เพิ่ม สรุปได้มา 1,234$ ครับ => จากตารางข้างบนเป็นสรุปสถิติการเทรดสำหรับ Week ที่ 1 เทรดไปทั้งหมด 143 ไม้ (ถ้าไม่นับคนที่ผิดกติกาก็ตอนนี้ ผมเทรดถี่มากที่สุดแล้วครับ) เน้น long 90% short 10% เทรดไปแล้วทั้งหมด 35 lots ได้ cashflow มาเกือบ 4,000$ เฉลี่ยวันละ 800$ น้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 1,000$ เนื่องจากตลาดเมกาหยุดวันชาติไปหนึ่งวัน ตลาดเลยไม่ขยับไปเลยเกือบหนึ่งวัน => expectancy เฉลี่ยอยู่ที่ 27$ ต่อไม้ (เทรดส่วนมากกระสุนเฉลี่ยอยู่ที่ 0.2 lot ต่อไม้ ถ้าเทรดถูก 1$ จะได้ 10$ ก็แปลว่า เฉลี่ยแล้วได้ประมาณ 2.7R) ภาพรวมทั้ง week ตลาดสวิงขึ้นลงประมาณ 20-25 จุดต่อวันครับ















มาดูเรื่องการ balance position กันบ้าง ว่าตั้งใจจะไม่ให้ติดลบเกิน 2,000-3,000$ ก็ยังได้ตามเป้าอยู่ มีพลาดไปนิดนึงตอน day trade กด short เพื่อเทรดเข้าเร็วออกเร็วไป แล้วไม้สุดท้ายออกไม่ดัน โดน V shape ทำให้ ติดฝั่ง short มากกว่าที่ตั้งใจไว้นิดหน่อย แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะ up แผนการเทรดสำหรับ Week ที่ 2 ต่อไป ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป => รูปด้านล่างเป็น graphic จาก myfxbook ตอนนี้ยังใช้ได้อยู่ก็ต้องรีบใช้ต่อไปครับ อิอิ

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 4 (4-7-2556) => ทรงๆ แล้วไหลขึ้น












เมื่อวานเข้าสู่โซนวันชาติอเมริกา ช่วงเช้าตามเวลาบ้านเรา ตลาดนิ่งสนิทเลยครับ วิ่งอยู่ในกรอบแค่ 1-2 เหรียญ พอตกกลางคืนถึงจะเริ่มวิ่ง กว่าตลาด S&P จะเริ่มปิดจริงๆ ก็เกือบๆ 4-5 ทุ่มบ้านเราแล้วครับ สงสัยเค้าคงจะทำราคาหุ้นให้ดูดีฉลองวันชาติ 555













เมื่อวานพยายามจะเร่งสร้าง cashflow ด้วยการ daytrade ช่วยแล้ว แต่กลางวันนี่แทบจะวิ่งอยู่ในกรอบ 1 เหรียญ ก็เลยไม่รู้จะเร่งยังไงดี พอตลาดเริ่มวิ่งขึ้นแล้วก็มองเห็น trend เป็นขาขึ้นชัดเจน ก็เลยต้องมา bias ฝั่ง long ด้านเดียว โดยเน้นใช้ position ฝั่ง long มากกว่า ฝั่ง short ที่ติดอยู่ประมาณ 2-3 เท่าครับ

สรุปจบวันเทรดเพิ่มไปอีก 22 ไม้ ได้ cashflow มา 688$ ดูดีขึั้นกว่าเมื่อวาน และมีไม้ที่กำไรอยู่อีก 10 กว่าไม้ที่ยังไม่ได้ปิด position เพราะต้องเอาไว้ hedge กะ run trend => Floating P/L เหลือติดลบแค่ 1,700 ต่ำกว่าที่ตั้งใจไว้แล้ว order เปิดค้างอยู่ 6.5 lots (Long : short = 2.4 : 1) => Equity ก็เกิน 100,000$ กลับมายืนในแดนบวกได้อีกครั้ง

พอตลาดเริ่มมี Trend เราก็จะไม่ trade สวน trend แล้ว และต้องพยายามเก็บไม้ที่ต้นทุนต่ำๆ เพื่อเอาไว้ run trend พร้อมกับ hedge ไปด้วยให้ได้ เพราะถ้าตลาดเป็น one way up เมื่อไหร่ ใครที่ short ไว้เยอะก็จะตายหมดซึ่งจะไม่เสี่ยงกับการ predict ตลาด หรือ เทรดแบบสั้นๆ แล้วอัด position เยอะๆ เด็ดขาด เพราะนี่แค่ week แรกเท่านั้นครับ ช่วงนี้ก็ต้อง follow your plan เน้น process ไปก่อนครับ พรุ่งนี้จบ week แรก จะทำ stat ละเอียดมาดูกัน

Wednesday 3 July 2013

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 3 (3-7-2556) => ก็ยัง sideway เหมือนเดิม












วันนี้เริ่มจะพอมีเวลาบ้างล่ะ จะได้คิดทบทวนแผนกันบ้าง
จากรูปด้านบนเราจะระบายสีแยกเป็นวันๆ เพื่อที่จะให้เห็นกรอบการสวิงในแต่ละวันครับ ก็จะเห็นได้ว่าวันจันทร์ราคาเปิดมาอยู่ที่ประมาณ 1,595 จุด เราตีกรอบการขึ้นสุดลงสุดไม่เกินวันละ 30 จุดสำหรับกรอบการสวิงรายวันในช่วงที่ Volatility อยู่ในระดับปกติไม่มีลุงเบนมาแถลงข่าวบ้าบอนะคับ
ก็จะเห็นได้ว่าผ่านมา 3 วันละ กรอบการสวิงอยู่ในระหว่าง 1,590 - 1,620 จุด เพียง 30 จุดเท่านั้นเองคับ อยู่ในภาวะ sideway อย่างชัดเจน เนื่องจากแต่ละ TF ยังขัดแย้งกันเองหมด TF Week และ Month เป็นขาขึ้น แต่ TF day เป็นขาลง 4 hr ก็ยังขึ้น ทำให้ TF 1 hr ที่เราวางแผนเอาไว้เพื่อที่จะใช้ Hedge position ที่ติดกลายเป็น sideway ไปอีกซะงั้น

ถ้าตามสูตรของอาจารย์แล้ว เค้าบอกว่าเราไม่ควรจะเล่น short เลยถ้า TF week ยังไม่เป็นขาลงนะครับ เพราะฉะนั้น เราก็ยังคงต้อง balance position ให้อยู่ในสัดส่วน 3:1 หรือ 2:1 (Long : Short) ตามเดิม

มาถึงผลการเทรดบ้าง เนื่องจากรูปกราฟตอนคืนวันอังคารเป็น V shape แบบกลับหัว ซึ่งระบบ Long ของเราจะไม่ชอบแบบนี้ครับ เพราะจะทำให้ position ฝั่ง long ติดเยอะ พอเช้าวันพุธราคาก็ไหลลงไปอีก ทำให้ไม่กล้าที่จะเปิด long เพิ่มตามแผนเนื่องจาก position ข้างบนติดเยอะประมาณ 5-6 lots ละ => สุดท้ายแล้วตลาดก็ดัน sideway เป็นตัว V แบบที่ระบบเราชอบอีก แต่ดันมี position ไม่เยอะซะงั้น => ข้อคิดจากวันนี้คือ เราวางแผนไว้แล้วว่าให้ติดได้ไม่จำกัด ก็ทำตามแผนไปเลยไม่ต้องกลัว แล้วก็ไม่ต้องกลัวที่ตามคนอื่นไม่ทันด้วย เน้น process ที่ไม่ predict อนาคตก่อน แล้วเดี๋ยว result จะตามมาเองครับ

สรุปวันที่ 3 เทรดเพิ่มไปอีกแค่ 19 ไม้ ได้ cashflow มาเพิ่มแค่ 394$ รวม 3 วันได้แค่ 2,061$ น้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้แล้วเกือบ 1,000$ => สิ้นวันเหลือติด 5 lots สัดส่วน 2:1 Floating P/L -2,300$ อยู่ในระดับที่น่าพอใจครับ ต้องกลับมาเน้นการ day trade แล้ว เพิ่มให้เป้าหมายที่วางไว้ไม่หลุดกรอบครับ แล้วพรุ่งนี้มาดูผลกัน

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 2 (2-7-2556) => sideway ในกรอบ












ผ่านไปวันที่ 2
เทรดเพิ่มไปอีก 27 ไม้ ได้ cashflow มาอีก 699$ ตอนนี้ต้องเรียนรู้วิธีบริหารกระสุน โดยให้ balance position ที่ติดทั้งฝั่ง short และ long ให้สมสัดส่วนกัน ยกตัวอย่างเช่นใน TF week ยังคงเป็นขาขึ้น ก็ให้เรา bias ฝั่ง long ฝั่ง short ในสัดส่วน 3:1 หรือ 2:1 เสมอๆ ครับ

ตอนแรกว่าจะพยายาม manage ให้ equity ติดลบไม่เกิน 2,000$ ตอนนี้ก็ลบเกินแล้วครับ อยู่ที่ 2,900$ โดยที่มี long position อยู่ 3.7 lots และ short position อยู่ที่ 1.5 lots คิดเป็นสัดส่วนสำหรับ Bias long ที่ 2.47 เท่า ก็ยังคงอยู่ในสัดส่วนที่วางแผนไว้นะครับ

ถ้าดูจากกราฟด้านบนเป็น TF 1 hrs ซึ่ง Trigger สำหรับการเปิด Hedge ฝั่ง long จะอยู่ที่ 1,600 จุดนั่นเองครับ ซึ่งดูรวมๆ จะเห็นภาพรวมก็ค่อนข้าง bias ด้านลงแล้ว

S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 1 (1-7-2556) => กรอบการวิ่ง 30 จุด












หลังจากที่ได้กรอบการเทรดทั้งภาพใหญ่ 3 เดือน และภาพสำหรับรายวันแล้วเราก็มาทำการวาง order คร่อมโซนตามที่เราวางแผนไว้เพื่อสร้าง Killing Zone หน้าที่ของเราคือการ balance position เพื่อรักษา Equity เอาไว้ในขณะเดียวกันก็สามารถ generate cashflow ออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ

จากรูปด้านบนเราก็วาง order +,- 30 จุด นับจากราคาเปิดตามที่วางแผนเอาไว้ครับ (หลุดกรอบบนไม่ต้องกลัว แต่ถ้าหลุดกรอบล่างต้องหาวิธีย้ายโซนลงมาเล่นตามครับ และพยายาม Hedging postion ที่ติด เพื่อรักษา equity ให้ติดลบน้อยที่สุดครับ)












ภาพด้านบนคือ ราคาจริงที่ตลาดเฉลยออกมาครับ ก็จะเห็นได้ว่าไม่เกินแผนที่เราวางเอาไว้ (วันแรกราคาทำท่าจะหลุดกรอบล่าง แต่แล้วก็กลายเป็นขึ้นต่อแทน รวมระยะสวิงทั้งหมด 25 จุดครับ
=> ในวันต่อๆ ไป เราก็จะเปิด order เพิ่มแทน order ที่ take profit ไปแล้วครับ และถ้ากรอบการวิ่งเริ่ม bias ไปทางไหนมากกว่า เราก็จะไป key order คร่อมโซนเอาไว้เหมือนเดิมครับ ไม่คาดการณ์อนาคต ช่วงทำตามแผนการไปก่อนเท่านั้น แล้วจะปรับแผนเพิ่มเติมค่อยดูผลรวมตอนสิ้นสัปดาห์ครับ

ซึ่งผลการเทรดวันแรกเทรดไปทั้งหมด 36 ไม้ cashflow ทำได้ 968$ ได้ใกล้เคียงเป้าที่วางเอาไว้ที่ 1,000$  ส่วน Floating P/L -1,940$ มี order ที่ติดอยู่ 3.8 lots เป็นฝั่ง Long 2.8 lot, short 1 Lot สัดส่วน 2.8 เท่า

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะทำสรุปทุกๆ สิ้นสัปดาห์ เพื่อทำการ review และปรับแผนสำหรับสัปดาห์ต่อไป

Monday 1 July 2013

**S&P วางแผนสำหรับการเทรด Week ที่ 1 (30-6-2556) => วางแผนกรอบการเทรดท้้งหมดก่อนการแข่งเทรด

วางแผนกรอบใหญ่ราย 3 เดือนก่อนนะครับ ถ้าว่ากันตาม TF Week แล้วก็ยังเป็นขาขึ้นอยู่นะคับ
แต่ในรูปข้างบนเป็น TF day กะ 1 Hr มัน bias มาฝั่ง short แล้ว เราวางกรอบกว้างๆ ก้อน เพื่อจะได้กำหนดโซนสำหรับกางตาข่ายครอบทำ Killing Zone และขนาดกระสุนต่อ orders รวมถึงจำนวนกระสุนได้ถูกต้อง
ตามรูปด้านบนที่ระบายสีส้มจะเป็นประมาณการของกรอบการวางโซน คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1,475 - 1,655 จุด แบ่งกว้างๆ เป็น 3 โซนๆ ละ 60 จุดครับ

=> แต่เวลาวาง order ต่อวันแล้วจะวางแค่ประมาณ +,- 30 จุด นับจากราคาวันปัจจุบัน ซึ่งเราเทรดแบบใช้กลยุทธ์ไม่ predict ตลาดจึงต้องวางแผนคร่อมทั้ง 2 ด้าน (รอจนกว่า TF Week จะ Bias มาฝั่งลงแล้วจริงๆ เราถึงจะเน้นด้าน short มากกว่าด้าน long ครับ)



กำหนดให้เบื้องต้นใช้กระสุนขนาด 0.2 lot ต่อ 1 order ครับ 
ถ้า 0.1 lot จะเล็กไปหน่อย คีย์ยากและเยอะมากเวลา monitor 

เป้าสำหรับการสร้าง cashflow อยู่ที่ประมาณ 20,000$ หรือ 20% ต่อเดือน เฉลี่ยประมาณวันละ 1,000$
ดูจาก stat การแข่งเทรด 3 รอบแล้ว และ target สำหรับ trader มืออาชีพก็เป้าจะประมาณนี้ล่ะคับ make sense ซึ่งถ้ามีเป้าหมายชัดเจนแล้ว เราก็ follow ตามแผนเรา ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นๆ ที่สไตล์การเทรดไม่เหมือนเรา หรือ เร่งอัด position => จุดประสงค์ที่แท้จริง น่าจะเป็นกลยุทธ์การเทรด การวางแผน MM และระเบียบวินัยจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เป็นการแข่งวิ่งมาราธอนไม่ใช่แข่งวิ่ง 100 เมตรครับ (จงวิ่งอยู่ในลู่ของตัวเอง Focus Focus Focus)


รูปต่อมา พอได้กรอบใหญ่แล้วเราก็มากำหนดกรอบสำหรับการเทรดรายวัน (โดยใช้ TF 1 Hrs) ถ้าประมาณจากค่าเฉลี่ย 5 วันก่อนซึ่งทดลอง run ระบบ กรอบการเคลื่อนไหวจะอยู่ที่ประมาณ 30 จุดต่อวันครับ เราก็ระบายสีคร่าวๆ ตามแนวรับ แนวต้าน fibo และ Trend line แบบพื้นฐานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เพราะว่าเราก็ไม่ได้ต้องการจะ predict อนาคตอยู่แล้วครับ