Wednesday 17 August 2016

ภาค Reborn - เหนื่อยนักพักก่อน #1











ตั้งแต่ช่วงวันแม่ที่ผ่านมาภารกิจเยอะเหลือเกิน วิ่งไปวิ่งมาหลายที่ทุกวัน
นอนดึก ตื่นเช้า ดูโอลิมปิกด้วย ไปงานวิ่งด้วย กินข้าวนอกบ้านตลอด สุดท้ายก็ป่วยจนได้
เป็นการป่วยครั้งแรกในรอบปี จนถึงตอนนี้ก็ย้งไม่หายป่วยเลย งานก็ยัง Clear ไม่หมด
แต่ร่างกายมันฟ้องล่ะ ก็ต้องช่วยมันบ้าง ให้มันได้พักบ้างไรบ้าง

บทความเรื่อง MM ก็เลยยังไม่ได้เขียนต่อ
เพราะต้องใช้เวลาเรียบเรียงนานอยู่ กว่าจะเขียนออกมาได้แต่ละตอน

ตอนนี้ยังไม่มีอะไรจะ update ก็เลย เอา port ที่ซ้อมยิง sniper มาบันทึกเก็บไว้ล่ะกันครับ
ยิงมาได้ครบ 1 เดือนพอดี ยิงไปทั้งหมด 64 นัด

อันนี้ตั้งใจจะทำให้เพื่อนดู ตอนที่จะให้เพื่อนฝึก sniper บ้าง
พยายามใส่เงินให้น้อยที่สุด และปกติจะไม่มีการ cut loss
นัดที่ cut loss ไป ส่วนมากจะเป็นไม้ Hedge หรือไม่ก็เอากำไรมา net ทิ้งไปครับ

วันนี้เอาสั้นๆ แค่นี้ก่อน ต้องไป Clear งานต่ออีก T T


Friday 12 August 2016

ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #21

#Money Management คือ อะไร#3

... ความเดิมจากตอนที่แล้ว ...
ถ้าเรามีเงินเก็บทั้งชีวิตแค่ 1 ล้านบาท เราคงจะไม่ทุ่มเงินทีเดียวหมดหน้าตัก
เพื่อเดิมพันกับการโยนเหรียญหัวก้อยที่มันมีโอกาสแค่ 50:50 ถูกมั๊ยครับ

แต่ถ้าหากเรามีเงินเป็น 1,000 ล้านบาท แล้วให้เราไปเล่นโยนเหรียญหัวก้อยทีละ 1 ล้านบาท มันก็ชิลๆ มากเลยถูกมั๊ยครับ มันขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกที่จะเล่นเกมส์นี้หรือไม่เท่านั้นเอง

ซึ่งก็เหมือนเดิม ก่อนที่เราจะเล่นเกมส์อะไรซักเกมส์
เราก็ควรจะมีภาพในหัวให้ชัดเจนก่อนว่า เราจะเล่นเกมส์นี้ชนะได้ยังไง
มันมีเรื่องอะไรที่เราควรที่จะต้องรู้บ้างก่อนที่จะเล่น แล้วเราวางกลยุทธ์ทางหนีทีไล่เอาไว้ยังไง


ยกตัวอย่างเช่น
  • เกมส์การโยนเหรียญหัวก้อย มันวิเคราะห์อะไรไม่ได้ว่าเหรียญมันจะออกหัวหรือก้อย  เราทำได้แค่เพียงคำนวณความน่าจะเป็นเท่านั้น 
  • เหรียญที่ใช้ในการโยน ต้องเป็นเหรียญที่สมดุล น้ำหนักเหรียญไม่เอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดในการโยนเหรียญแต่ละครั้งเป็นอิสระต่อกัน
  • เราต้องรู้เรื่อง Law of large number ของการโยนหัวก้อย เช่น การโยนเหรียญจำนวนน้อยๆ ครั้ง ผลลัพธ์ของการเกิดหัวก้อยก็ยังไม่แน่นอนซักเท่าไหร่ แต่ถ้าโยนยิ่งมากครั้ง ซัก 1,000 ครั้งขึ้นไปเนี่ย โอกาสของการออกหัวและก้อย จะมีการกระจายตัวเท่าๆ กันใกล้เคียงกันที่ 50% แน่นอน


โอกาสและความน่าจะเป็น ผสม MM
  • เพื่อการรวบรัดให้จบ เบื่อเรื่องโยนเหรียญล่ะ 555 => สมมติว่าเราทายว่าออกหัวทุกตา และเรา Focus ที่ความน่าจะเป็นในการโยนเหรียญให้ถูกจำนวน 10 ครั้งติดกัน จะมีโอกาสเกิดมากน้อยเพียงใด
  • ตอบเลยล่ะกัน โอกาสที่จะออกหัวติดกันจำนวน 10 ครั้ง มีเพียงแค่ 1/2^10 หรือ 1 ใน 1,024 หรือ 0.09765625% เท่านั้น
  • ถ้าโอกาสถูกติดกัน 10 ครั้ง มีเพียงแค่ 1 ใน 1,024 ดังนั้น โอกาสที่จะผิดติดกัน 10 ครั้ง ก็มีเพียงแค่ 1 ใน 1,024 เท่ากัน ใช่หรือไม่
  • ถ้าเรารู้ว่าโอกาสที่จะผิดติดกัน 10 ครั้งนั้นน้อยมาก เราจะกล้าเสี่ยงแบบทบต้นเงินต้นลงไปเพิ่มทุกครั้งที่ผิดหรือไม่ เช่น ลงเงินตาแรก 1 ล้านบาท ถ้าทายผิด ถ้าต่อไปก็ลงเงินตาละ 2 ล้านบาท ถ้าทายถูก เราก็จะได้เงินที่เสียไป 1 ล้านบาทคืน พร้อมกำไรอีก 1 ล้านบาท แต่ถ้าทายผิดเราก็ลงเงินเพิ่มไปอีกกลายเป็นตาละ 4 ล้านบาท
  • ถ้าเราทำตามแผนข้างบน เราก็มีโอกาสทายผิดได้ไม่เกิน 10 ครั้งติดกัน (เงิน 1,000 ล้านจะหมดตูด) แม้ว่าโอกาสจะเกิดขึ้นมีน้อยก็ตาม แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่ที่สำคัญคือ ในเกมส์แบบนี้ ใครจะยอมเป็นเจ้ามือให้เราเล่น (MM แบบนี้เรียกว่า Martingale => ขนาดบ่อนพนันยังไม่ยอมให้ใช้วิธีการนี้เลย) #ที่เหลือ google ต่อเองนะ
  • ในขณะที่ MM อีกแบบนึง คือ ถ้าเราเล่นตาละ 1 ล้านบาทไปเรื่อยๆ จนครบ 1,000 ครั้ง เงินก็จะเหลือใกล้เคียงเดิม +,- เล็กน้อย เพราะโอกาสมัน 50:50 ตามกฎ Law of large number (ไม่ได้ไม่เสีย แล้วจะเล่นไปทำไมล่ะ??)  => แต่ถ้าเอากำไรที่ได้ในแต่ละครั้งที่ทายถูกมาทบต้นขึ้นไปเรื่อยๆ เราก็ต้องหวังให้ในการโยนเหรียญ 1,000 ครั้ง จะมีโอกาสที่เหรียญออกหัวติดกัน 10 ครั้ง (เพื่อให้ได้เงิน 1,024 ล้าน) นั้นเกิดขึ้นก่อนที่เงินต้น 1,000 ของเราจะหมด  แต่โอกาสจะเกิดก็มีเพียงแค่ 1/2^10 หรือ 1 ใน 1,024 หรือ 0.09765625% แต่เรามีเงินแค่ 1,000 ล้าน เราแบ่งเงินไปเล่นเสี่ยงทายทีละ 1 ใน 1,000 หรือ 0.01% => สรุปว่าเราควรจะเล่นเกมส์นี้หรือไม่???



Monday 8 August 2016

ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #20



#Money Management คือ อะไร#2

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นอีก ผมจะยกตัวอย่างแบบสุดโต่งมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

สมมติถ้าเรามีเงินเก็บทั้งหมดในชีวิตจำนวน 1 ล้านบาท ให้เราเล่นพนันทายโยนเหรียญหัวก้อย
ถ้าทายถูก ก็จะได้เงินเท่ากับจำนวนเงินที่ลงพนัน
แต่ถ้าทายผิด ก็จะเสียเงินที่ลงพนันในตานั้นๆ ทั้งหมด

คำถาม คือ แล้วเราจะลงพนันเงินครั้งละเท่าไหร่ดีล่ะ

ซึ่งก็คงไม่มีใคร (บ้า) ลงเงินทั้งหมดเพื่อวัดกันในเกมส์โยนหัวก้อยถูกมั๊ยล่ะครับ (แม้ว่าจริงๆ แล้วมี 555)

เพราะว่า เงินเราเก็บมาแทบตายกว่าจะได้ ถ้าจะให้วัดกันไปเลยทีเดียวกับเกมส์ที่ดูแล้วเหมือนผลตอบแทนจะเยอะ แต่โอกาสมันก็ 50:50 มันจะคุ้มค่าหรือ?

เราอาจจะคิดแบบมักง่ายหน่อย ใช้กลยุทธ์ตีหัวเข้าบ้าน แค่ทายถูกครั้งเดียวแล้วเลิกเลย
ซึ่งถ้าได้มันก็ดี แต่ถ้าเสียขึ้นมา ไม่แทบบ้าเลยหรือ??? (#Mental แตกกระจาย)

.
.
.
ถ้าไล่อ่านบทความตั้งแต่แรกขึ้นมา ก็จะรู้ว่าเราไม่ควรเล่นเกมส์แบบนี้ เพราะว่ามันผิด concept ของกองทัพไร้พ่าย คือ เราไม่สามารถรักษาเงินต้นให้เป็นอมตะได้ ถูกป่ะ

.
.
.

แค่ให้ทายถูกครั้งเดียวยังลุ้นใจสั่น แต่ก็ยังมีคนที่คิดว่าเราอาจจะทายถูกหลายๆ ครั้งติดกันก็ได้นะ (พวกแทงบอลชุดไง หึหึหึ) ซึ่งถ้าเราทายถูก แล้วเราก็เอาเงินทบต้นเข้าไปด้วยอีกเรื่อยๆ ถ้าเราทายถูก 10 ทีติดกัน จากเงินต้น 1 ล้านบาท มันก็จะทวีแบบเป็น 2^10 กลายเป็น 1,024 ล้านเลยนิ #เจ้ามือมีหนาวอ่ะ 555 (สมมตินะครับสมมติ)





ซึ่งที่เขียนมาข้างบนนั้น ถ้าไม่ใช่ผีพนันตัวจริง ก็คงไม่มีใครทำแบบนี้แน่ๆ ถูกมั๊ยล่ะครับ
เหตุผล Basic ก็เพราะว่ามันเสี่ยงเกินไป...

.
.
.
แต่ถ้าผมสมมติให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง คือ ให้เรามีเงินในกระเป๋าซัก 1,000 ล้าน หรือ 10,000 ล้านล่ะ แล้วให้เราเล่นทายหัวก้อยแบบข้างบนลงเงินครั้งละ 1 ล้านบาท แบบนี้เราจะเล่นมั๊ย ... ... ... เพราะอะไร ... ... ...


#พอจะเห็นภาพแล้วใช่มั๊ยครับ ให้ลองไปคิดดูเล่นๆ ก่อน ต่อตอนหน้าครับ... ... ...





Sunday 7 August 2016

ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #19


















#Money Management คือ อะไร#1

(ต่อไปจะเขียนย่อๆ ว่า MM #เข้าใจตรงกันนะ)


MM คือ อะไร?
ถ้าสมัยผมเรียน Finance เรื่องนี้ก็ไม่มีสอนในตำราเรียนทั่วๆ ไปหรอกนะครับ
จะมีแค่อย่างมากก็จะเป็นเรื่อง Asset Allocation ไม่แน่ใจว่าสมัยนี้จะมีพูดถึงแล้วหรือยัง

แต่ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีนะครับ เพราะ เรื่องนี้มันน่าจะมีเฉพาะเจาะจงอยู่ในโลกของการเทรดเท่านั้น
ส่วนมากที่เรียนใน class จะออกแนวการลงทุน (Investment Analysis) ซะเป็นส่วนมาก

และที่สำคัญ คือ เค้าก็ไม่ค่อยที่จะสอนกันให้เป็นกิจลักษณะซะทีเดียวหรอก
เนื่องจาก ถ้าคนทั่วๆ ไป หรือ รายย่อย รู้เรื่องนี้กันมากๆ เข้า
เหยื่อของรายใหญ่ก็จะค่อยๆ หายไปเรื่อยๆ หรือไม่ก็จะจับยากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง หึหึหึ
(หมายถึง MM ของเจ้ามือนะ ไม่ใช่ MM ที่สอนรายย่อยอยู่ในตลาดทั่วๆ ไป)

กลับมาต่อ
ตามความหมายตรงๆ เดิมๆ ของ Money Management ก็คือ การบริหารเงินหน้าตัก ครับ

แล้วทำไมต้องใช้คำว่า "หน้าตัก" ด้วยฟระ?

จากที่ผมเคยอ่านๆ มานานล่ะ จำไม่ค่อยได้ (ก็เลยมโนฯเอาเองว่า) ต้นกำเนิดคงจะมาจาก John L.Kelly วิศวกรผู้คิดค้น Kelly Formula อันโด่งดังนั่นเอง #อยากอ่านเพิ่มก็ google โลด
หลักจากนั้นก็มีพวกนักต่างๆ โดยเฉพาะนักคณิตศาตร์ พยายามคิดวิธีที่จะเอาชนะบ่อนการพนันให้ได้โดยใช้การคำนวณความน่าจะเป็น ผสมกับการคำนวณ Position sizing หรือจำนวนเงินที่จะนำมาลงพนันในแต่ละครั้งว่าควรจะเป็นเงินจำนวนเท่าใด (ซึ่งประยุกต์มาจาก Kelly Formula อีกที) ซึ่งคนที่ดังมากๆ ในเรื่องนี้ ก็คือ Edward O.Thorp ตอนที่แต่งหนังสือ Beat The Dealer ออกมานั่นเอง #ที่เหลือ google ต่อเอาเองนะ (เพราะว่าตอนนี้ไม่ได้ใช้ MM แบบนี้แล้ว เนื่องจากไม่ถูกจริต หึหึหึ)


เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยปกติเวลาที่ผมคุยกับเพื่อนก็จะใช้การยกตัวอย่าง Classic เช่น
สมมติให้ (เล่นพนัน) ทายโยนเหรียญหัวก้อย ถ้าออกหัวจะได้เงิน 2 เท่าของก้อย ถ้ามีเงิน 1,000 บาท หรือเท่าไหร่ก็ว่าไป เราควรจะลงเงินครั้งละเท่าไหร่ดี (ให้ไม่เจ้ง และ ได้ผลตอบแทนสูงสุด #คำว่าสูงสุดนี่จริงๆ ฟังแล้วรู้สึกขยาดๆ นะ 555)

เฉลย #Google เหมือนเดิม มีคนเขียนแล้วเยอะแยะมากมาย #จบนะ


https://www.facebook.com/crazygoatbuster/




Friday 5 August 2016

ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #18




เมื่อคุณอยู่ในสนามรบ จง Focus ให้ถูกจุด!!
___________________________________________________

ในสนามรบนั้น หากเราเก่งแต่เรื่อง Method หรือ Entry & Exit เพียงอย่างเดียวนั้น 
เราอาจจะเป็นได้แค่ทหารเลวแถวหน้าเท่านั้น 

แต่ถ้าเราเทพเรื่อง Money Management (MM) ก็ถือได้ว่าเราเป็นระดับแม่ทัพนายกอง 

แต่ถ้าเราอยากจะเป็นไอ้คนที่อยู่ข้างหลังสุดตรงนั้น เราก็ควรจะต้องเก่งทุกอย่างที่ควรจะเก่งถูกมั๊ยคับ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการวางแผน กลยุทธ์การรบ การมองเห็นภาพรวมของสงคราม จิตวิทยามวลชน ระเบียบวินัย การควบคุมตนเอง การเรียนรู้และพัฒนาตนเอง และอื่นๆ อีกมากมายตายสไตล์จริตแต่ละท่าน

และสิ่งที่สำคัญ คือ เราควรที่จะ focus แต่ละอย่างให้ถูกจุด 
ให้ถูกที่ถูกเวลาด้วย ตามน้ำหนักความสำคัญด้วย

.
.
.

เมื่อความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของเราเกินระดับของเกมส์นั้นๆ ไปแล้ว 
เราถึงจะควบคุมเกมส์นั้นๆ ได้อย่างสมบูรณ์



(Rerun)
https://www.facebook.com/PleaseMindYourTFEX/photos/a.341305102579369.81511.221405844569296/563161127060431/?type=3&theater




Thursday 4 August 2016

ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #17



สำหรับผู้ที่เริ่มต้นใหม่ คือ ตอนแรกเราก็ไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ นั่นแหละ
ก็คิดแค่ว่ามีเงินก้อนนึง จะทำยังไงให้มันงอกเงยดี (งอกมากๆ เร็วๆ ด้วย ยิ่งดี 55)

ซึ่งเราก็ไม่รู้จริงๆ หรอกว่า จักรวาลของการเทรด การลงทุน มันกว้างใหญ่ไพศาลขนาดไหน

จริงๆ ความยากของศาสตร์ๆ นึง มันก็คงอยู่ที่ตอนแรกนั้นเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แล้วเราก็ค่อยๆ ฝึกฝน เก็บความรู้และประสบการณ์ซึ่งเป็นเหมือน jigsaw แต่ละตัว
ที่ต้องค่อยๆ ทยอยสะสม แล้วก็ค่อยๆ ประกอบมันขึ้นมาจนเป็นรูปเป็นร่างที่สมบูรณ์

ปัญหามันอยู่ที่ว่า เราไม่รู้จริงๆ ว่า jigsaw ตัวสุดท้ายมันมาครบแล้วหรือยังนี่สิ
เวลาที่เราทำผิดพลาดไป เราถึงได้รู้ว่า อ่อ! มันยังมีเรื่องที่เรายังไม่รู้แบบนี้อยู่อีกนี่หว่า
มันยังมีเรื่องที่เราคาดคิดไม่ถึงแบบนี้อยู่ด้วยอีกหรือฟระ ซึ่งบางทีเราก็คิดว่าเราไม่ได้ประมาทหรอก
แต่มันไม่รู้จริงๆ ว่า มันจะมีอะไรแปลกประหลาดแบบนี้เกิดขึ้นได้ด้วยแฮะ (ก็มันไม่เคยเจอนิ -*-)

ดังนั้นในช่วงของการเริ่มต้นนั้น ตอนที่เรายังไม่รู้เรื่องอะไรเลย
(ซึ่งโดยปกติเรามักจะคิดว่า เรารู้มากแล้วอ่ะนะ หลังจากอ่านหนังสือ หรือ ไปลงเรียนคอร์สอาไรมาก็ตาม)
ก็ขอให้เราอย่าได้ประมาทเป็นอันขาดกับโลกของเกมส์การเงิน
เพราะบางคนอาจจะเริ่มลงทุนแล้วก็โชคดีในตอนแรก แล้วก็อาจจะประมาทย่ามใจ
(ทำไมมันได้เงินมาง่ายอย่างนี้ฟระ) แต่สุดท้ายแล้วถ้าเราไม่เก๋าพอ หรือเราไม่รู้จริง
เราก็จะโดยตลาดเอาคืนไปในที่สุด (แบบเจ็บปวดรวดร้าวซะด้วย > <)

บางคนถึงกับครอบครัวแตกแยก บางคนถึงกับฆ่าตัวตายเลยก็มีนะครับ ... ... ...
(เริ่ม Dark อีกล่ะ จริงๆ เรื่องของการมองเห็นภาพองค์รวมทั้งหมดเป็นส่วนของ #Mindset นะครับ)


https://www.facebook.com/crazygoatbuster/



Wednesday 3 August 2016

ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #16


เมื่อวานหลังจากไปวิ่งกลับมา ก็เริ่มสอนเพื่อนในกลุ่มเรื่องการทำ Alpha ประมาณ 3 ชม. ก็เลยไม่ได้เขียน Blog เลย

.
.
.
ก่อนจะไปถึงเรื่อง MM ก็พักฟังเรื่องสบายๆ กันก่อนล่ะกันนะครับ

ย้อนไปตอนเด็กๆ ตอนที่ผมเคยซื้อหุ้นตัวแรกในชีวิต คือ การบินไทย ราคา IPO 60 บาท แย่งกันซื้อแทบตาย ได้มากันคนละ 200 หุ้นแบบงงๆ ... ผ่านมา 24 ปีตอนนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 25 บาท (ช่วงต้นปี low สุดอยู่ที่ประมาณ 8 บาท  -*-) แต่ผมขายทิ้งไปตั้งแต่ชาติปางก่อนแล้วล่ะ ขายไปราคาเท่าไหร่ยังจำไม่ได้เลย 555



ตอนเด็กๆ ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหรอก (จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เรื่อง 555) รู้แต่ว่า อ๋อ เล่นหุ้นมันดีหยั่งงี้นี่เอง

จินตนาการภาพที่อยู่ในหัวก็คือ ประมาณว่า เอ็งมีเงินก้อนนึงนะ ไปซื้อหุ้นราคา 10 บาทนะ 
แล้วก็รอให้ราคามันขึ้นไปซัก 11-12 บาท ก็ขายทำกำไรได้แล้ว 10-20% ง่ายจุงเบยยยย! -*- 

ถ้ามีเงินซักล้านนึง ซื้อขายรอบนึงก็ได้ได้แสนสองแสนแล้วจิ หวานจริมๆ lol 
(ง่ายอย่างนี้ ชาตินี้กรูไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว หึหึหึ) ซึ่งผมก็คิดได้แค่นั้นแหละ 555 
.
.
.

วนกลับมาถึง ณ จุดปัจจุบัน เวลามีเพื่อนอยากจะลองเริ่มเล่นหุ้น อารมณ์มันก็จะประมาณนี้


... เฮ้ย! กรูมีเงินก้อนนึงว่ะ XX บาท อยากได้แค่ปีละซัก 10-20% ก็พอ เอาเป็นค่ากับข้าว #WTF


... กรูรอโพยมรึงอยู่นะโว้ยยย จะเข้าตัวไหน เข้าตรงไหน ออกตรงไหน บอกด้วย #WTF



(ภาพในหัวมันก็แบบเดียวกันเด๊ะเลยไง 555)

Monday 1 August 2016

ภาค Reborn - "The Armageddon trader!!!" #15



Method คือ อะไร#5 (จบดีกว่า)
  • ด้วยเหตุผลทั้งมวลที่ได้ยกตัวอย่างไปให้ดู จึงทำให้เห็นได้ว่า Method ที่ใช้ได้ 100% และตลอดไปจึงไม่ (ควร) มีอยู่ในโลก เพราะถ้าเรามี Method ที่ใช้ได้ผล 100% แล้วล่ะก็ Method มันก็ควรจะต้องมีความสำคัญเป็นสัดส่วน 100% เลยทีเดียว และก็คงไม่ต้องมีศาสตร์เรื่อง MM  งอกเพิ่มออกมาอีก ส่วนเรื่อง Mental ก็ไม่ต้องฝึก ไม่ต้องใช้กันแล้วถูกป่ะล่ะ เพราะมี Method แบบแม่น 100% ตัวเดียวก็เอาอยู่หมดแล้ว (#ก็เทรดอะไรมันก็ถูกต้องไปหมด 100% แล้วนิ ยังจะต้องใช้อะไรอีกล่ะ)
  • แต่คราวนี้พอมันไม่มี Method ที่ใช้ได้ 100% แล้ว ความสำคัญของ Method มันเลยโดนลดสัดส่วนลงไปเหลือแค่ 10-20% เท่านั้น (ตาม 3 รูปด้านบน) ก็คือ พอมันไว้ใจไม่ค่อยได้แล้ว (#ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน) สัดส่วนมันก็เลยหดเหลืออยู่แค่นี้แหละ คือ แทบจะหมดความสำคัญลงไปเลยทีเดียว 
  • ในเมื่อเรารู้แล้วว่าวิธีการที่ถูกต้อง 100% มันไม่มี คำถามที่ควรจะถามต่อไปก็คือ ถ้าถูกหมดทำไม่ได้ แล้วถ้าเกิดผิดขึ้นมาจะทำไงต่อดีล่ะ
  • ด้วยเหตุฉะนี้เอง มันจึงต้องมีศาสตร์ที่ 2 กำเนิดขึ้นมาเพื่อที่จะเอาชนะเกมส์นี้ให้จงได้ นั่นก็คือ Money Management (MM) นั่นเอง 
  • #จบดีกว่า #นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการเทรดแบบมี Stop loss หรือ ไม่มี Stop loss ด้วยเลยนะ เพราะมันต้องเอาไปผูกเข้ากับ MM & Mental อีก เดี๋ยวจะยิ่งเยอะไปกันใหญ่