Friday 28 November 2014

Nov 29, 2014 - เหนื่อยนักพักก่อน ตอนที่ 6 - "ครบรอบครึ่งปีแระ"


ผ่านไปไวเหมือนโกหก ฝึกเทรดและเป็น mentor ให้คุณภิริมาครบ 6 เดือนล่ะ
มาดูผลงานกัน



โดย stat แล้วต้องถือว่ายอดเยี่ยมเลย สำหรับคนที่ไม่เคยศึกษาและเทรดมาก่อน แค่ครึ่งปีก็ทำได้ครบตามเป้าแระ ยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งปีก็คงเทรดประคองไปเรื่อยๆ => จิงๆ แล้ว ต้องใช้ท่าไม้ตาย โดยการเอากำไรไป Bet ด้วย แต่เนื่องจากไม่มีเวลากันทั้งคู่ ประกอบกับคุณภิริก็ไปเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ อีก ก็เลยยังไม่ได้สอน 55


กลับมาดู Port close system น้องทองกันบ้าง



เดือนนี้น้องทอง swing ได้ใจ ก็เลยเก็บ cashflow ได้เยอะหน่อย




หน้าที่ต่อไป คือ พยายาม ดึง NAV ให้ขึ้นมาอยู่แดน + ให้ได้
แต่น้องทองแกยังโดนกดลงซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เรา L only อ่ะนะ
ก็ต้องพยายามกันต่อไป สำหรับการทดลองสร้าง Gold machine อมตะเครื่องนี้
เด่วตัดยอดสิ้นเดือนนี้ จะแบ่งเอากำไรไป Bet ล่ะ หุุหุุหุ จะหมู่หรือจ่า ต้องรอดูกัน


Tuesday 11 November 2014

***Nov 12, 2014 - คุณรู้อาไรเกี่ยวกับการเทรดบ้าง ตอนที่ 46


"เวลาล่วงเลยไป ท่านกำลังทำสิ่งใดอยู่เล่า"


"สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดก่อนที่จะเริ่มเทรด คือ การประเมินความเสี่ยงขั้นสูงสุด และ การจำกัดความเสี่ยงไม่ให้เกินกรอบที่กำหนดไว้ และแผนการจัดการความเสี่ยงที่คาดไม่ถึงอื่นๆ ด้วย ถ้าเรา (พยายาม) ควบคุม Risk ให้ได้หมดแล้ว ถึง performance จะไม่ดี หรือ ตลาดไม่ดี พอร์ตก็ยังไม่เสียหาย อยู่รอดปลอดภัยได้ตลอด"

"จงคุมที่ Risk ก่อน และคุมให้อยู่ทุกจุด ทุก process ทุกๆ รายละเอียดปลีกย่อย จงอย่ามองข้าม"


"80 สิ่งที่สำคัญมักไม่ด่วน, 20 สิ่งที่ด่วนมักไม่สำคัญ"


"นกนางนวลทำได้แค่บินลงน้ำจับปลากิน หรือบินได้ไกลกว่านั้น - Jonathan Livingston"


"คุณไม่ได้เก่งขนาดที่ว่าจะเทรดหลายๆ product แล้วไม่ต้องจดอะไรเลย ไม่ต้องวางแผน มาถึงก็กดๆ ยิงๆ เอาเอง แบบที่คิดว่าตัวเองเก่งหรือมีสมองเหมือน computer ได้หรอก"

"การเทรด ถ้าไม่รีบ ไม่โลภ มีวินัย ทำตามแผนการ มันก็จบไปตั้งนานแล้ว T T"


"อะไรที่ยังทำไม่ได้ ก็เพราะ 1. ความรู้ไม่พอ 2. ประสบการณ์ไม่พอ 3. ควบคุมตัวเองไม่ดีพอ (วินัย)"

"จงเชื่อในกฎแห่งการทำซ้ำ สิ่งที่ยากมากๆ ฝึกทำบ่อยๆ ก็จะยากน้อยลง สิ่งที่ยากๆ ทั่วไป ทำบ่อยๆ ก็จะเริ่มง่ายขึ้น สิ่งที่ง่าย ทำบ่อยๆ ก็เริ่มจะเชี่ยวชาญ สิ่งที่เชี่ยวชาญ ทำบ่อยๆ ก็เริ่มมีลูกเล่นพลิกแพลง พลิ้วไหวไปมาได้ไม่จำกัดตามสถานการณ์"





สำหรับนางนวลทั่วๆ ไป การกินนั้นสำคัญกว่าการบิน แต่สำหรับโจนาธานนั้นการกินไม่ใช่เรื่องที่สำคัญไปกว่าการบิน โจนาธาน ลิฟวิงสตัน : นางนวล รักที่จะบินเหนือสิ่งอื่นใด


         "แม่ ฉันไม่กลัวที่จะเหลือแต่กระดูกและขนฉันเพียงแต่อยากรู้ว่าเมื่อฉันอยู่ในอากาศ ฉันจะทำอะไรได้หรือทำไม่ได้ ฉันเพียงแต่อยากรู้เท่านั้นเอง" เมื่อต้องการเรียนรู้...โจนาธาน จึงทดลองทำ...ทุกอย่าง

ไม่ว่าจำนวนใดก็เป็นขอบเขตจำกัด แต่ความเป็นเลิศไม่มีขอบเขต 

นางนวลที่เยาะเย้ยความเป็นเลิศเพื่อที่จะได้ไปเที่ยว กลับไม่ได้ไปไหน แล้วก็เชื่องช้า ผู้ที่พักการเที่ยวไว้เพื่อแสวงหาความเป็นเลิศ จะไปไหนก็ได้ และก็รวดเร็วฉับพลัน จำไว้นะ โจนาธาน 

       "ร่างกายของเธอทั้งหมด จากปลายปีกหนึ่งไปสุดอีกปีกหนึ่ง ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากความคิดของเธอเอง"  มันเป็นรูปร่างที่เธอมองเห็นเมื่อเธอตัดโซ่ตรวนออกจากความคิดได้ เธอก็ตัดโซ่ตรวนนั้นออกจากร่างกายได้ด้วย…" 


"กฎที่แท้จริงอันเดียวคือ กฎที่นำไปสู่อิสระเสรีภาพ"




       

Wednesday 5 November 2014

Nov 5, 2014 - เหนื่อยนักพักก่อน ตอนที่ 5 - "ไปเรื่อยๆ เบๆ"


ยังวุ่นไม่่เลิก 555
แต่รู้สึกได้ว่าต่อไปมันจะเริ่มเบาลงเรื่อยๆ ล่ะ ได้เวลานับถอยหลัง อิอิ
พยายามจะหาวิธีมา manage เวลาให้ได้ ต้องจัด priority ทำแต่งานสำคัญแต่ไม่ด่วนกะสร้างวินัยให้ได้

มาเข้าเรื่องคุณภิริดีกว่า



เดือนนี้คุณภิริก็ยังทำ cashflow ได้ดีต่อเนื่องเหมือนเดิม NAV ก็ยังคงรักษาระดับเอาไว้ได้
กลยุทธ์ช่วงนี้คงจะเน้นปลดกระสุนแระ เตรียมรับความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้


ส่วน port beta lagging (FX) นั้น สรุปว่าทำผิดนะคร๊าบบ 555 ก็ว่าทำไมมันแปลกๆ
เพราะดันไปเล่น 2 ด้านในตัวเดียว ทุกคู่เลย
ตอนแรกคิดว่าให้ bias direction ตาม MA พอเหนือเส้นก็ L only
พอหล่นมาอยู่ใต้เส้นก็ S only คือ นึกว่าตัวเดียวเล่นได้ทั้ง 2 ด้านซะอีก
เพราะนึกว่า FX มันเป็น product พิเศษ คือ assume ว่าค่าเงินมัน sideway ตลอดกาลในกรอบใหญ่ (ถ้าอีกประเทศนึงมันไม่เจ๊งไปก่อน) เพราะฉะนั้นเราก็น่าจะเล่น 2 ด้านในคู่เดียวได้สิ (ถ้าภาพ Macro ทั้ง 2 ประเทศมันไม่หนีกันมากอ่ะ)

คือ เมื่อก่อนก็เล่นทางเดียวตลอดนะ (ใน product ที่ไม่ใช่ค่าเงิน)
แต่พอลองมาเล่น 2 ด้านใน FX ดู ก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดรึป่าวก็เลยไป post ถามพี่ต้าน
ก็ clear เลยสรุปว่า Close system เล่นด้านเดียว จบ เหมือนเดิม 555 โง่อยู่ได้ตั้งนาน แต่ก็เป็นการเรียนรู้ที่ดีนะ...




อันนี้อีก port นึงเป็น close system ของน้องทองเค้า มันต้องเป็นแบบนี้สิถึงจะไม่แปลก 555



Sunday 2 November 2014

***Nov 2, 2014 - "ว่าด้วยเรื่องของหวู เว่ย"


เรื่องนี้ชอบเป็นพิเศษมานานแระ ได้ฤกษ์ตัดแปะเก็บไว้ซะที หึหึหึ

Credit: http://djehuti.exteen.com/20090710/entry



"ใครทนไม่ไหวก่อน คนนั้นแพ้ (กระทำการไม่กระทำ)"


"Action = Reaction (จะเก จะบลัฟ ดูตาม้าตาเรือด้วย -*-)"

"อยากเป็นใหญ่ ใจต้องนิ่ง (จะซัดเจ้ามือ ก็เตรียมตัวเตรียมใจให้ดีๆ lol)"





หวู เว่ย :: หลักแห่งการไม่กระทำ


"เป็นเรื่องปรกติที่สิ่งเช่นนั้น (อาวุธสงคราม) ย่อมจะสะท้อนคืน"
"ยิ่งตรากฎหมายออกมามากเท่าใด โจรก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น"
"นักปราชญ์ย่อมไม่โอ้อวดตน เหตุนั้น เขาจึงได้รับการยกย่อง"
"ผู้กระทำให้เกิดความเจ็บปวดและสูญเสีย คือผู้ที่ปล่อยให้โอกาสดีเสียไป"

หลักภายใต้ข้อความสี่ประการนี้ มีความหมายว่า ในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์นั้น กำลังย่อมพ่ายแพ้แก่ตัวมันเอง ารกระทำทุกอย่างที่เป็นการท้าทายย่อมได้รับการโต้ตอบ กฎของความเฉื่อยที่ฝังติดมากับภาวะการดำรงอยู่ ทำให้ทุกๆ ด้านของการดำรงอยู่ มีความโน้มเอียงที่จะดำเนินต่อไปอย่างที่มันเป็น การแทรกแซงระหว่างภาวะที่เป็นไปตามธรรมชาติและการต่อต้านภาวะนั้นของมัน เปรียบดังเช่นก้อนหินที่ต่อต้านการถูกบดทำลาย ถ้าเป็นสิ่งมีชีวิต การต่อต้านจะเป็นไปอย่างแข็งขัน เหมือนดังตัวต่อ เมื่อถูกรบกวนก็จะต่อยทันที
"การยอมจำนน คือการรักษาทั้งหมดไว้" หวู เว่ย คือหนทางเดียวที่จะทำให้ได้รับความสำเร็จอย่างแท้จริง การเข้าไปขวางอย่างจงใจทั้งก่อนหน้าและภายหลังนั้น ผลที่ได้จะไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้เสมอ ด้วยเหตุนี้คนเราจึงแทบจะถูกบังคับให้ฝึก กระทำการไม่กระทำ

"ใช้ความซื่อตรงและสุจริตในการปกครองประชาชน
ใช้ความคาดไม่ถึงในการดำเนินงานทางทหาร
ใช้การไม่เข้าไปเกี่ยวข้องสำหรับการครอบครองโลก
ข้าพเจ้าเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไรน่ะหรือ
ยิ่งมีข้อห้ามมากขึ้นเท่าใดในโลก ประชาชนก็ยิ่งยากจนลงไปเท่านั้น
ยิ่งประชากรมีฝีมือในงานอาชีพมากเพียงใด สิ่งล่อตาล่อใจก็จะถูกผลิตออกมามากเพียงนั้น
ยิ่งประกาศกฎหมายออกมามากเพียงใด โจรก็จะยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

ด้วยประการนี้  นักปราชญ์จึงกล่าวว่า:
ข้าพเจ้าไม่คิดประดิษฐ์คิดสร้างสิ่งใด
ผลคือ ประชาชนมีความศิวิไลซ์ตามธรรมชาติ
ข้าพเจ้าจึงพึงพอใจความสงบเงียบ
ผลคือ ประชาชนมีความสุจริตอย่างยิ่งตามธรรมชาติ
ข้าพเจ้าไม่มีสิ่งใดที่จะกระทำ
ผลคือ ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ
ข้าพเจ้าไม่มีความปรารถนาใดๆ
ผลคือ ประชาชนอยู่อย่างเรียบง่ายตามธรรมชาติ"

"กระทำการไม่กระทำ
ดิ้นรนให้แก่การไม่ต่อสู้ดิ้นรน
พอใจในรสของสิ่งที่ไร้รส
เห็นว่าสิ่งเล็กน้อยมีความสำคัญ ทำให้ป็นจำนวนมากจากจำนวนที่น้อย
วางแผนสำหรับความกลำบากตั้งแต่มันยังง่ายอยู่
กระทำสิ่งใหญ่ตั้งแต่มันยังเป็นสิ่งเล็กน้อย
สิ่งที่ยากที่สุดในโลกนั้น ต้องกระทำขณะที่มันยังเป็นสิ่งที่ยังง่ายอยู่"



เรื่องสำคัญคือ ต้องเข้าใจว่าหวู เว่ยหาใช่สิ่งเดียวกับการไม่มีอะไรเลย และไม่ใช่ต้นแบบที่สมบูรณ์ของการอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร ตรงกันข้ามมันเป็นเจตคติที่มีประโยชน์เป็นพิเศษ เนื่องจากมันทำให้การกระทำทั้งมวลเป็นไปได้และบังเกิดผล  หวู เว่ย คือการเข้าใจกฎธรรมชาติ การดำเนินตามกฎธรรมชาตินั้นทำให้ได้รับพลังที่แท้จริง และทำให้การกระทำทั้งมวลเกิดสัมฤทธิผล