Friday, 19 July 2013

**S&P บันทึกการแข่งเทรดวันที่ 15 (19-7-2556) => week นี้โดน short bias เล่นงานครับ แย่แว้ว!!!

Week นี้ผมโดน short bias เล่นงานเข้าอย่างจัง เนื่องจากทัศนคติในการเทรดที่ผิดครับ คือ เราไป focus ในผลลัพธ์ที่เราอยากจะได้ซึ่งก็คือ ต้องการดึง Equity ขึ้น เนื่องจากเรามีตัวที่มี position short อยู่ด้านล่าง เวลาตลาดยิ่งขึ้น Equity เราก็ยิ่งติดลบ ดังนั้นวิธีการที่ง่ายที่สุดที่คนโง่ๆ อย่างผมคิดได้ก็คือ ต้อง bias short แล้วแช่งให้ตลาดลง!! ดูโง่เง่าจิงๆ คับ คือ แม้ว่า Technical หรือ indy อาไรต่างๆ มันบอกว่าตลาดควรจะย่อได้แล้ว แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องย่อถ้ามันยัง Bullish มากๆ อยู่ แต่กลับกลายเป็นว่าเราเน้นไปที่ผลลัพธ์มากเกินไป ทำให้เราเกิด bias ในใจ อยากจะให้ตลาดเป็นไปอย่างที่ใจเราคิด (ใจจริงคิดแค่ว่ามันควรจะย่อแค่ 10 จุดมาสัมผัสแถวๆ 1,663 แต่มันย่อลงมาแค่ 1,665 แล้วก็ขึ้นยาวเลยคับ) => สุดท้ายก็ทำให้เราไม่ได้ทำตามแผนการที่เราได้ออกแบบมาดีแล้วว่าเราจะไม่ predict ตลาด เราจะเน้นการสร้าง cashflow และรักษา equity และไม่กลัวที่จะมี position ที่ต้องติดลบเพราะ stop loss ไม่ได้ครับ... น่าเศร้าจริงๆ แสดงให้เห็นถึงความอ่อนหัด และอ่อนแอในตัวเราเป็นอย่างยิ่ง

"Focus on process, not result" => ระบบผมออกแบบมาแล้วสำหรับตัวเองที่ไม่มีเวลาดูซักเท่าไหร่ ดังนั้นผมควรจะทำตามระบบที่ผมออกแบบมาดีแล้วอย่างไร้จิตใจไม่ Bias ครับ... week นี้ผมพอมีเวลาแล้ว ผมจึงข้อบันทึกข้อผิดพลาดทั้งหมดของตัวเองเพื่อแก้ไขต่อไปครับ สงครามยังไม่จบ ผมจะไม่มีวันยอมแพ้กลางทางแน่ๆ => เกมส์ๆ นี้แข่งกันที่ใครผิดพลาดน้อยที่สุด ไม่ใช่ใครถูกต้องมากที่สุดครับ

สรุปข้อผิดพลาดของการเทรดสัปดาห์ที่ 3
  1. ไม่ได้วางแผนการเทรดแบบละเอียด => สัปดาห์ก่อนผมมัวแต่ไปทำข้อสอบรอบพิเศษ Mudleygroup ใช้เวลาทั้งเสาร์อาทิตย์เต็มวันก็เลยไม่ได้มาวางแผนละเอียดแบบสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดแค่ว่าก็แค่ตั้ง order ตามน้ำไปเรื่อยๆ เหมือนอย่างเดิม แค่กำหนดกรอบการสวิงขึ้นลงของสัปดาห์ +,- 40 จุดก็พอ แต่นั่นยังไม่เพียงพอครับ
  2. Short bias => ไม่เพียงพอเพราะว่า ผม Bias short ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ทำให้ผมปิด position ที่กำไรทิ้งไปทั้งหมด เพื่อคาดหวังว่าตลาดจะย่อลงมาเพื่อลด equity อย่างที่ผมตั้งใจไว้ ซึ่งความคาดหวังมันก็มีแค่ถูกหรือผิด พอไม่เป็นอย่างที่ใจเราคิด เราก็ยิ่งกระวนกระวาย เพราะไอ่ที่ตั้งใจไว้ มันไม่เป็นอย่างงั้น Equity ก็ยิ่งแย่ขึั้นไปอีก ทำให้เราก็ต้องไปเน้น day trade อีกด้วย position ที่ใหญ่ขึ้นอีก พอพลาดก็ติดเพิ่มอีก (การ day trade ควรจะทำเฉพาะด้าน long only เพื่อ against short position ที่ติดอยู่เท่านั้น แต่ผมก็ดันไปเทรดทั้ง short ทั้ง long พอตลาด one way up ตัว short ก็ติดเพิ่มขึ้นอีก อนาจยิ่งกว่าเก่า
  3. กลัวที่จะ Long ตามระบบ => คราวนี้พอ Short bias ผิด ตลาดมันก็ขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งกลัวเข้าไปอีก เพราะว่ากลัวจะติดดอยเพิ่ม กลายเป็นกลัวว่าจะติดทั้่ง short (ที่ก้น) และ long (ที่ยอด) => ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ถ้าผมไม่ bias short => ถ้าไม่ bias ผมก็จะไม่ปิดตัวที่เป็น long position ที่สะสมมาตั้งแต่ 1,610 จุด พอตลาดยิ่งขึ้น จำนวนไม้ long ก็ยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ เป็น Snow ball ฝั่ง long ที่สะสมมา ซึ่งลูกมันก็จะใหญ่ไปเรื่อยๆ ฝั่ง short ก็จะไม่มีเพราะว่ากฎบอกว่ายิ่งขึ้นก็ควรจะต้องมี long position มากกว่า short อยู่ 2-3 เท่าอยู่แล้ว => ซึ่งถ้าเราทำตามแผนการมาเรื่อยๆ เราก็จะไม่กลัวติดไม้ long ที่ยอด เพราะว่า Cashflow กับ Equity มันโตไล่ๆ กันมาเรื่ีอยๆ ถึงตลาดย่อตัว position ที่ติดที่ยอดเราก็จะไม่กลัวเพราะว่าเราออกแบบระบบมาให้ position ติดได้อยู่แล้ว => Mental เราก็จะไม่เสียด้วย เพราะว่ามันมาตามแผนการทั้งหมด... สรุปว่าการเน้นที่ result มากเกินไป จะทำให้เราเร่ง พอเร่งก็จะผิดพลาด (เพราะ Volatility ของตลาดในระยะสั้นเราไม่สามารถคาดเดาได้ ยิ่งเพ่งก็ยิ่งอยากจะตะครุบเหยื่อที่เค้าล่อ ซึ่งจะทำให้พลาดได้ง่าย) แล้ว Mental ก็จะเริ่มแย่ ตามกันมาเป็นลูกโซ่...
  4. วินัยในการทำตามระบบและแผนการ => ถือว่า fail พอหลุดจากแผนการแล้วก็หลุดโลก แทนที่จะรักษา Gap ระหว่าง Balance และ Equity ให้ติดลบไม่เกิน 2,000 - 3,000$ แล้วก็ไปเน้นสร้าง cashflow ให้ได้วันละ 1,000$ ตามแผน ก็ดันไปปิด long ทิ้งหมดแล้วดันไม่เพิ่ม long เพิ่มที่ต้นทุนสูงๆ เพราะกลัวติดดอยอีกด้วย


จบสัปดาห์ที่ 3 เทรดเพิ่มไปอีก 122 ไม้ ได้ cashflow เพิ่มมาแค่ 3,491$ ขนาดว่านับตัวที่ run trend ขึ้นมาเยอะๆ แล้วยังได้เฉลี่ยไม่ถึงวันละ 1,000$ เพราะว่า Short bias นั่นแหละครับ การตั้ง zone สำหรับฝั่ง long เลยโหรงเหรงมากไม่มีทั้งตัว generate cashflow ทั้งตัว run trend เหลือเลย ตัว hedge ก็ไม่มีอีก เรีกกได้ว่าแย่ครบสูตร => จบสัปดาห์มี position ค้างอยู่ 5.2 lots เป็นฝั่ง short เกือบทั้งหมด Floating P/L ติดลบ 14,000$ => ตลาดสวิงเฉลี่ย 14 จุดต่อวัน ก็ถือว่า Volatility ไม่ได้สูงขึ้นจาก Week ก่อน แสดงว่าการเทรดตาม Trend จะดีกว่าการเทรดแบบ Swing ซึ่งใน Week เราควรจะสังเกตระดับของ Volatility ให้ดี ถ้าเริ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะ ถึงจะให้เริ่มระวังการย่อตัวหรือการเปลี่ยน trend ครับ












Stat โดยรวมถ้าดู Cashflow ก็ยังพอได้ แต่ Equity กากมักๆ














\

No comments:

Post a Comment