Sunday, 23 June 2013

**บันทึกความคิด 22-6-2556 - Rate of Return















เอารูปมาจากพี่ต้าน Mudley อีกเช่นเคย

เรื่องนี้สำคัญมากๆ จนคนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ เหตุผลเนื่องจากผลกำไรในตลาดมีจำกัด และ 90% ต้องขาดทุนเสมอ เพราะฉะนั้น

1) คุณอย่าเล่นมากเกินไป จนระบบตลาดเสียศูนย์ (Equilibrium) ถ้าคุณเล่นแบบเกาะๆ ไป วิธีการของคุณมันก็ยังคงใช้ไปได้เรื่อยๆ (คือ อย่ากินเงินเจ้ามากเกินไป เด่วเจ้าโกรธ)

2) เพราะฉะนั้นเมื่อถึงจุดที่ได้กำไรแล้วพอสมควร คุณก็ต้อง take profit หนีออกมาครับ มันได้แค่นั้นแหละ อย่าไปโลภมาก (เพราะ เด่วเจ้าโกรธอีกเหมือนเดิม 555 แล้วคุณก็จะโดนท่าไม้ตายใส่)
เด่วมีเวลาจะมาคิดแบบละเอียดอีกที

ข้อความของท่าน Mudley อีกแว้ว 555
ควรตัดค่าเฉลี่ยของระบบมาดูว่าหากระบบคิดถูกโดยมากจะวิ่ง
ไปได้เฉลี่ยระยะทางเท่าไร เพื่อกำหนดเป็นจุด exit แบบ protect model บางส่วน และ จุด hedging portfolio ที่เหมาะสม เช่น หากถูกแล้วส่วนมากจะวิ่งไปได้ 10 จุดโดยเแลี่ย เราก็จะกำหนดจุด hedge positions บางส่วนไว้ที่ 8 จุดหลังเกิดสัญญาณอะไรทำนองนี้เป้นต้น





อ่านของพี่ต้านเพิ่มเติ่มล่ะกันนะครับ
?to
 Mudleygroup
Rate of return (จาก Edward 0 thorp)
วันนี้เราจะมาพูดกันต่อเรื่อง math พื้นฐานก่อนเช่นเคยซึ่งเป้นเรื่องๆที่หลายๆคนคิดไม่ถึงแล้วมองข้ามไป นั่นคือ Rate of return ซึ่งในที่นี้หมายถึงผลตอบแทนตามความเป็นจริงที่เราควรจะได้นั่นเอง สมมุติว่าเราเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนต่อ 1 สัญญา เท่าๆกันทุกคนเพื่อให้ง่ายต่อการมองภาพเช่นเดิม 50$ มีจำนวนตนที่อยุ่ในตลาดทั้งสิ้น 100 คน จำนวนเงินที่นำมาลงกันคือ 50*100=5000$ ลองนึกภาพดูง่ายๆว่าแต่ล่ะคนจะคาดหวังผลตอบแทนเท่าไรจากเงินลงทุนเพียงแค่ 50$ ง่ายๆเลยทุกคนหวังผลตอบแทนไม่ต่อกว่า 100$ ต่อเดือนแน่นอน ทีนี้คิดแบบน้อยๆเลยแล้วกันคือ 100$/เดือน เป็น rate of return ต่ำสุดที่ทุกคนคาดหวัง ดังนั้น มีผู้เล่นในตลาด 100 คน ต่างคาดหวังจำนวนเงิน (100$+50$ ต้นทุน)*100คน = 15,000$ ดังนั้นมีเม็ดเงินที่เกินความเป็นจริง หรือเม็ดเงินในอากาศที่คนเราคาดหวังอยุ่สูงถึง 2 เท่าตัวเลยทีเดียว คือ 15,000 - 5000 = 10,000 เงินส่วนเกินนี่เองที่ผู้แพ้จะต้องรับผิดชอบไปหามา หรือโปะเข้าไป
จากตรงนี้เรามาดูกันว่าได้อะไรต่อไป พวกกองทุนมองเห้นอะไรจากพื้นฐานแค่นี้ สมมุติว่าไอ้ผู้เล่น 100 คนประกอบไปด้วยกองทุนต่างๆ 20 คน พวกนี้เป็นกลุ่มคนที่มีวินัยตั้ง rate of return ไวที่ค่าต่ำสุดของค่าความคาดหวังของผู้คนในตลาดคือ 100$ ต่อเดือน พอได้ถึงเป้าแล้ว 20 คนนี้ก็หอบเอาเงินตามเป้าที่ตัวเองตั้งใจไว้ออกไป ซึ่งก็คือ (100+50)*20 = 3000 $ เราจะเห็นว่ากลุ่มคนเพียง 20 % ที่คาดหวังผลกำไรต่ำสุดสามารถกินเงินในตลาดไปเกินครึ่ง นี่เป็นอีกบทพิสูจน์นึงว่าทำไม 90%ในตลาดถึงผลรวมพอรตโฟลิโอขาดทุน จากตรงนี้เราจึงต้องปรับ rate of return ของเราให้เหมาะสมอยุ่เสมอ ไม่มากจนเกินไปนัก แต่ถ้าน้อยมากไปเราก็จะเสียโอกาส คำถามคือ คุณคิดว่า เงินเพียง 50$ ที่เอามาลงทุนเนี่ยมันควรได้ผลตอบแทนสักแค่ไหนกันเชียวลองมองถึงความเป็นจริง ควรได้ 1หมื่น หรอ หรือ 1 พัน ถ้าตลาดให้ผลตอบแทนเป็นหลายร้อยเท่าของเงินทุนคุณขนาดนั้นถึงเป็นเช่นนี้ทำไมธนาคารหรือสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลกถึงไม่ค่อยนำเงินมาลงทุนในตลาดนี้หรือลงทุนในจำนวนที่ไม่มากนักทั้งๆที่เค้ามีเครื่องมือที่พร้อมมากกว่าและบุคคลากรที่ดีกว่า นั่นก็เพราะเค้าทราบดีว่าในตลาดนี้แท้จริงแล้วความเสี่ยงกับผลตอบแทนที่ได้มันไม่คุ้มกับหลักการบริหารความเสี่ยงนั่นเอง แถมยังต้องไปเจอพวกหิวกระหายเลือดเช่นเฮดฟันด์ต่างๆยิ่งทำให้โอกาสชนะยากไปทุกที
ทีนี้สืบเนื่องมาจากตลาดเป็นภาวะ dynamic มีคนเติมเงินเข้าละออกอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ภาพรวมของสมการพื้นฐานที่เรามองเสียไป ทำให้ดูเหมือนมีผลตอบแทน หรือเม็ดเงินให้เราได้อย่างสม่ำเสมอ คำตอบแล้วคือใช่ ตลาดมีผลตอบแทนให้เราได้อย่างสม่ำเสมอถ้าเราเข้าใจหลักการ rate of return อย่างแท้จริงนั่นเอง โดยที่ตลาดจะสลับไปมาระหว่างผู้ซื้อกำไร (long) กับช่วงที่ผู้ขายกำไร(short)
จากหลักการนี้เราข้ามมาดูว่าพวกเฮดฟันด์คิดยังไงดีกว่า ไม่ต้องสนใจรายย่อยของตลาดซึ่งโดยมากแล้วจะเป็นเหยื่อ เรามาลองดูหลักการบริหารของพวกนี้กัน พวกเค้าเข้าใจดีว่าตลาดมันธรรมชาติเป็นอย่างไร แต่ทำไมถึงไม่มีหนังสืออธิบายการทำงานของพวกเค้าอย่างละเอียดมาให้คนธรรมดาได้เข้าใจบ้างตลอดเวลาหลายๆ 100 ปีมานี้ ก็เพราะว่าเราเป็นลุกค้าหรือเหยื่อที่ดีให้กับพวกเค้านั่นเอง เราทำงานประจำทุกเดือนเพื่อมาเสียบางส่วนให้กับตลาดพวกนี้ ดังนั้นคุณคิดหรอว่าเจ้ามือบ่อนจะบอกถึงกลวิธีการนับไพ่หรือสลับไพ่แก่คุณ
ซึ่งกฏเหล่านี้พวกนักพนันอาชีพหรือแม้แต่ผมเองเข้าใจดี
1. คุณจะทำให้คนส่วนมากกำไรไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าคนส่วนมากกำไรมีโอกาสที่คนพวกนั้นจะเอาเงินออกไปทุกเมื่อ หลายคนอาจเถียงถึงภาวะตลาดหุ้นที่บูมที่ทุกคนต่างก็ได้กำไร แล้วคุณมองว่ากำไรที่ได้มานั้นมันอยุ่นานมั้ย หลังจากภาวะที่ตลาดหุ้นบูมรายย่อยหลายๆคนต่างก็ล้มละลายเพราะเค้าทำให้คุณคิดว่าเงินมันมาง่ายง่ายๆเหลือเกิน นั่นหล่ะ เทคนิคที่ 2
2. ถ้าจะทำให้คนจำนวนมากได้กำไร ต้องมีเหตุผลที่ดีมากพอที่ไม่ให้เค้าออกจากตลาดหรือจากบ่อน เพื่อที่ทำให้คนจำนวนมากเรานั้นต่างหลงมัวเมาอยุ่ในภาวะอันน่าพิศวงนั่นเอง ท้ายสุดนี้พวกนี้ก็จะเอาทุกอย่างไปจากคุณอยู่ดีทั้งต้นทั้งดอก
( อ่านผลงานของ thorp ถือว่าเข้าใจง่ายตามลำดับแล้วประยุกต์ได้ มิน่าหนังสือของเค้าถึงหาซื้อใหม่ๆไม่ได้แล้ว ของมือสองก็ราคาพุ่งสูงมากแล้วจะมาต่อกันนะครับ)

Posted by mudleygroup at 8/20/2006 08:54:00 AM





No comments:

Post a Comment